เมื่อเวลา 07.30 น.ของวันที่ 21 มี.ค. 2557 ที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.นพ.ภวัต ประทีปวิศรุต รองผู้บังคับการสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และคณะ เดินทางมาเพื่อประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในคดีน้องต๊อก ด.ช.ศุภชัย ธรรมานุพัฒน์ อายุ 13 ปี ที่เสียชีวิตด้วยจมน้ำที่สระน้ำหน้าหมู่บ้านบัวสีเงิน หมู่ 2 ต.วัดจันทร์ อ.เมืองพิษณุโลก เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยที่นางกัลยา เกตุนาวา นายบุญศักด์ ธรรมานุพัฒน์ มารดาและบิดา ของน้องต๊อก ติดใจสาเหตุของการเสียชีวิต เนื่องจากมีพยานเห็นเหตุการณ์ มีกลุ่มวัยรุ่นมารุมทำร้ายน้องต็อก ก่อนโยนร่างลงไปในสระน้ำ จึงร้องไปที่มูลนิธิปวีณาฯ ให้ตรวจสอบหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย
การประชุมเพื่อคลี่คลายคดีปริศนาน้องต็อก ว่าถูกฆาตรกรรม หรือ จมน้ำเสียชีวิตเองในวันนี้ มีนายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกให้การต้อนรับและร่วมประชุมด้วย พร้อมกับนายวัฒนะ กันนะพันธุ์ รองผวจ.พิษณุโลก นายวิทูรัช ศรีนาม รองผวจ.พิษณุโลก นายวิรัช พิพัฒสัตยานุวงศ์ อัยการจังหวัดพิษณุโลก พล.ต.ต.ศิรินทร์ ผดุงชีวิตร์ รองผบช.ภ.6 พล.ต.ต.ชฎิล พรหมไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พ.ต.อ.บุญญฤทธิ์ โล่สุวรรณ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีและชุดสืบสวนสอบสวนสภ.เมืองพิษณุโลก
โดยในวันนี้ทางพ.ต.อ.นพ.ภวัต ประทีปวิศรุต รองผู้บังคับการสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ได้นำผลการชันสูตร มาชี้แจงในที่ประชุม โดยฉายภาพถ่ายการชันสูตรที่รพ.ตำรวจให้ที่ประชุมได้ชม บาดแผลที่พบพบที่ศอกขวามีรอยช้ำถลอก ศอกซ้ายเห็นไม่ชัด มีลักษณะเขียว ๆ ที่หน้าท้อง แต่ไม่แน่ใจว่าเกิดจากการเน่าหรือไม่ ข้างเข่าซ้ายมีแผลถลอกลักษณะบาดแผลเหล่านี้เกิดใหม่ ๆ จะไม่เห็น บริเวณคอ และหลัง หนังศรีษะไม่มีรอยช้ำ ไม่มีบาดแผล ผ่ากระโหลกก็ลักษณะปกติ เมื่อเปิดลำตัวที่ผ่าแล้ว ไม่พบบาดแผลอะไร ลำคอก็มีการผ่าตรวจไปแล้ว แต่จากการลอกตรวจภายในลึก ๆ กล้ามเนื้อคอมีลอยช้ำ ที่เป็นปัญหาคือ เราเลาะไปในกล้ามเนื้อลึก ๆ มีเลือดออกในกล้ามเนื้อชั้นใน ผ่าซี่โครงมีรอยช้ำให้เห็น บริเวณเอว รอบไตด้านขวามีรอยช้ำ โดยกล่าวว่า เป็นการชันสูตรรอบที่สอง ต่อจากการชันสูตรรอบแรกของแพทย์เวร และขอให้ยึดถือการชันสูตรรอบแรกประกอบเป็นหลักในการสอบสวนด้วย
หลังจากการนำเสนอผลการชันสูตรของรพ.ตำรวจแล้ว นางปวีณา ได้เชิญดช.เอ พยานที่ระบุเห็นเหตุการณ์ขึ้นมาบนเวที รวมถึงบิดาและมารดาของน้องต็อก โดยดช.เอ ได้เล่าให้ที่ประชุมยืนยันว่า มีกลุ่มวัยรุ่นมาที่เกิดเหตุ ประมาณ 10 คน และมาทำร้ายร่างกายน้องต็อก ตบหน้า บีบคอ และยกตัวขึ้นสูงแล้วปล่อยตัวลงกระแทกกับพื้น ทั้งยังเอาไม้ตีที่ลำตัวอย่างแรง ก่อนที่จะจับน้องต็อกโยนลงน้ำ กระทั่งจมน้ำเสียชีวิต โดยกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ขู่ฆ่าดช.เอไว้ จึงไม่ยอมพูดความจริงในวันแรก แต่ก็มาเปิดเผยในวันที่ 7 เมษายน 2557 ก่อนที่จะมีพิธีฌาปนกิจ
ด้านนางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สอบสวนให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย มีหลายเหตุการณ์ที่พนักงานสอบสวนที่หาสาเหตุของการตรวจไม่ชัดเจน ต้องมาที่นิติเวช ในการตรวจ ก็พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีมูลจริง และกรณีนี้เช่นกันอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานสอบสวนตรวจสอบให้ชัดเจน ให้ความเป็นธรรม ให้ทำงานเที่ยงตรง ให้สอบสวนพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งข้อความในแมสเสจ เฟซบุ๊คของน้องต็อก ที่มีข้อความขู่เข้ามา กลุ่มที่ต้องสงสัย เร่งให้มีการสอบป.วิอาญาเด็กที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ โดยหลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์เข้าไปดูแลพยานทุกฝ่าย เพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะดช.เอ พยานที่เห็นเหตุการณ์ กระทรวงจะเข้ามาคุ้มกันพยาน และขอร้องอย่าให้มีเหตุการณ์ โทรศัพท์ไปข่มขู่พยาน พร้อมกันนี้ยังมอบหมายให้ผวจ.พิษณุโลก เข้ามาร่วมดูแลการสอบสวนคดีนี้ด้วย
ภายหลังเสร็จการประชุมที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนเดินทางกลับกทม. นางปวีณา ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า จริง ๆ มันชัดเจนอยู่แล้ว เราส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชรพ.ตำรวจ การพิสูจน์ของตำรวจเป็นพยานหลักฐานส่วนหนึ่ง เป็นพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ หลักฐานร่องรอยการทำร้ายร่างกาย พยานที่สองคือพยานบุคคล ในเคสนี้ มีพยานหลักฐานชัดเจน เชื่อมั่นว่าตำรวจจะดำเนินการได้ง่าย ทั้งนี้ทั้งนั้นตำรวจจะดำเนินการจับใครเป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม เราไม่ทราบว่าใครเป็นผู้กระทำ แต่ทางนิติวิทยาศาสตร์มีหลักฐานการผ่าตัด มีรอยช้ำที่คอ ตรงกับที่พยานบุคคลบอก การชันสูตรครั้งแรก ก็ชันสูตรว่าเสียชีวิตในน้ำ และแน่นอนก่อนเสียชีวิตในน้ำ แต่ก่อนเสียชีวิตโดนซ้อมก่อน และโยนลงไปในน้ำ ตอนทำร้ายร่างกายยังไม่ตาย ไม่ใช่จมน้ำตายเฉย ๆ แต่จมน้ำตายเพราะโดนซ้อมและดิฉันไม่ได้พูดเอง นิติวิทยาศาสตร์สรุปออกมา ว่าคอมีร่องรอยช้ำ วันนี้ท่านรองผู้การก็ได้มาร่วมประชุมด้วยตัวเอง แฟร์ทุกอย่าง ให้ทุกคนได้รับรู้ว่า พนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการได้ง่าย ไม่ต้องเสียเวลาขับรถไปตรวจสอบ ที่สำคัญคือ อยากให้ดูแลพยานบุคคล ที่มีรถมาวนเวียนดู ฝากเตือนด้วย ว่าใครก็ตามที่จะพยายามปั่นป่วนเด็กที่เป็นพยานขอให้ตำรวจดูแลด้วย เราได้ประสานกับกระทรวงยุติธรรมแล้ว กรมคุ้มครองพยานก็จะมาดูแลเด็กที่เป็นพยานต่อไป
พ.ต.อ.นพ.ภวัต ประทีปวิศรุต รองผู้บังคับการสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ให้สัมภาษณ์ กับสื่อมวลชนว่า รายละเอียดได้นำเสนอในที่ประชุมแล้ว ละเอียดมากกว่านี้ได้ให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนแล้ว ในการสอบสวนชันสูตรเบื้องต้นไม่มีความขัดแย้งกันดำเนินการไปตามขั้นตอนเหมือนกันหมด เพียงแต่ว่าผู้กระทำอาจจะตั้งใจไม่ให้มีการตรวจพบ ลักษณะการล็อคคอ ล็อคแขน หรือ ตุ้ยท้อง ลักษณะนี้ตรวจธรรมดาไม่เจอ จากรูปภาพที่เราโชว์ก็ชัดเจน ก็ขออนุญาตพ่อแม่เด็กแล้ว ขอโชว์หน่อย น่าจะชัดเจน สอดคล้องกันว่าล็อคคอล็อคแขน ตุ้ยท้อง กระบวนการผ่าปกติจะไม่ลงลึกไปขนาดนี้ ขั้นตอนการผ่าปกติจะไม่เจอ ที่ผิดสังเกตคือไม่มีแผลที่หน้า ถ้าโกรธกันต้องชกหน้า ตามตัวก็ไม่มีแผล
ส่วนแนวทางการสอบสวนนั้น พล.ต.ต.ศิรินทร์ ผดุงชีวิตร์ รอง ผบช.ภ.6 กล่าวว่า ตอนนี้กำลังรวบรวมหลักฐานทั้งหลักฐานในโลกโซเซียล ข้อความในโทรศัพท์ กล้องวงจรปิดในร้านเกมส์ และหลักฐานในที่เกิดเหตุ ซึ่งคาดว่าจะทราบผลโดยเร็วที่สุด พร้อมกับจะให้พนักงานสอบสวนทำงานและให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย และหากทางญาติผู้เสียชีวิตมีพยานหลักฐานใดเพิ่มเติม ขอให้นำมาแสดงกับตนเพื่อประกอบการสอบสวนได้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้จนท.ตำรวจพยานเร่งหาหลักฐานทั้งพยานบุคคล กล้องวงจรปิด รวมถึงไปตรวจสอบบริเวณสระที่เกิดเหตุ บริเวณที่พยานเห็นว่าถูกทำร้ายร่างกายก่อนถูกจับโยนลงสระ และ บริเวณที่พบศพจมอยู่ในสระ กลุ่มบุคคลที่ต้องสงสัยตามคำกล่าวอ้างของพยาน เป็นกลุ่มใดบ้าง ที่ขณะนี้พยานได้ชี้ตัวยืนยันแล้ว ขณะที่พยานบุคคล ก็ยังคงมีดช.เอ คนเดียว ที่ให้การยืนยันว่า เห็นกลุ่มวัยรุ่นมารุมทำร้ายน้องต็อกก่อนจับโยนลงในสระน้ำกระทั่งจมน้ำเสียชีวิต ขณะที่ดช.บี พยานอีก 1 คน ที่ไปเล่นน้ำด้วยกันในเวลาเดียวกันกลับให้การว่า ดช.ต็อก จมน้ำเสียชีวิตเอง