วันที่ 15 เมษายน 2557 คดีเงื่อนงำ กรณีดช.ต็อก หรือ ดช.ศุภชัย ธรรมานุพัฒน์ อายุ 13 ปี เสียชีวิตจากการจมน้ำในสระที่โครงการจัดสรร ม. 2 ต.วัดจันทร์ อ.เมืองพิษณุโลก เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2557 หลังจากมารดาและบิดาของผู้เสียชีวิต คือนางกัลยา เกตุนาวา และนายบุญศักดิ์ ธรรมานุพัฒน์ ได้ร้องขอจนท.ตร.สภ.เมืองพิษณุโลกให้สอบสวนใหม่ เนื่องจากมีเพื่อนของดช.ต็อกมาให้การภายหลังว่า ดช.ต็อก ถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายโดยใช้ไม้ตีที่ศรีษะและหน้าท้อง แล้วจับร่างโยนลงสระน้ำ คดีนี้ ฝ่ายมารดาของดช.ต็อก เชื่อมั่นว่าดช.ต็อกถูกทำร้ายร่างกาย และไม่เผาร่างชด.ต็อก ตามกำหนดการเดิมวันที่ 7 เมษายน 2557 ขณะที่การสืบสวนของจนท.ตำรวจออกมาในทิศทางว่า ดช.ต็อกจมน้ำเอง กระทั่งล่าสุดมีการส่งร่างดช.ต็อก ไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ โดยการประสานงานของมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี และมารดาของดช.ต็อกที่ร้องขอความช่วยเหลือ และมีการแถลงผลการชันสูตรเมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ว่า มีร่องรอยถูกทำร้ายร่างกายบนร่างกายดช.ต็อก
เช้าวันนี้ 15 เมษายน 2557 เวลา 08.30 น. จนท.มูลนิธิปวีณา ได้มาพบกับพยานปากเอก ดช.เอ ( นามสมมติ ) พร้อมจนท.,พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จ.พิษณุโลก และผู้ปกครองของดช.เอ และ บิดา มารดา ของดช.ต็อก โดยดช.เอ ที่เป็นพยานปากเอก ได้ยืนยันว่าเห็นเหตุการณ์มีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามาทำร้ายดช.ต็อก ที่ริมสระน้ำ จากนั้นเวลา 09.30 น. จนท.มูลนิธิปวีณา ได้พาดช.เอ ไปพบพ.ต.อ.บุญญสิทธิ์ โล่สุวรรณ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก ที่สภ.เมืองพิษณุโลก โดยใช้เวลาพูดคุยในห้องผกก.ประมาณ 30 นาที และจนท.มูลนิธิปวีณา ได้พาดช.เอขึ้นรถตู้กลับไป โดยมาให้ความคุ้มกันพยาน ตามคำร้องของของมารดาดช.ต็อก
พ.ต.อ.บุญญฤทธิ์ โล่ห์สุวรรณ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า วันนี้จนท.มูลนิธิปวีณา พร้อมกับพยานที่เห็นเหตุการณ์ได้มาพบตน และได้ร้องขอให้ตำรวจคลี่คลายคดีให้กระจ่าง หลังจากมารดาของดช.ต็อก ได้มาร้องขอให้ส่งร่างดช.ต็อกไปชันสูตรใหม่ที่นิติเวช รพ.ตำรวจ ขณะนี้ ขอรอผลการชันสูตรเป็นลายลักษณ์อักษรจากนิติเวชรพ.ตำรวจมาประกอบการสอบสวน และจะดำเนินการสอบสวนพยานเด็กใหม่ทั้งหมด เพื่อเร่งคลี่คลายคดีให้เร็ว
พ.ต.อ.บุญญฤทธิ์ เผยต่อว่า กรณีนี้ สามารถดำเนินการได้ครบทุกประเด็นทุกจุดอยู่แล้ว ว่าใครเกี่ยวข้องอย่างไร เพียงแต่รวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนที่สุด สมมติว่าเป็นเรื่องฆาตรกรรม มีพยาน มีน้ำหนัก ก็สามารถดำตัวมาดำเนินคดีได้ คดีนี้ พยานเด็กก็ให้การในเบื้องต้นว่าเห็นเหตุการณ์ ก็จะสอบสวนใหม่เพิ่มเติม แต่ขอความชัดเจนเรื่องผลชันสตูรอีกครั้ง จากนั้นจะมีการสอบสวนเพิ่มเติมเด็กทั้งหมด โดยประสานกับอัยการและจนท.พัฒนาสังคมมาสอบสวนร่วมกัน
นางกัลยา เกตุนาวา มารดาของดช.ต็อก เปิดเผยว่า หลังจากการชันสูตรโดยนิติเวชรพ.ตำรวจ และจากการแถลงข่าวของมูลนิธิปวีณา ระบุว่าเด็กโดนทำร้ายร่างกายจริง ถูกตีด้วยของแข็ง ตอนนี้อยากให้ได้ความเป็นธรรมมากที่สุด อยากให้ตำรวจคลี่คลายคดีให้กระจ่าง จับคนร้ายให้ได้ เมื่อวานนำร่างดช.ต็อก มาเก็บไว้ที่ชั้นล่าง ศาลาการเปรียญวัดท่ามะปรางแล้ว และจะยังไม่เผาลูกชาย จนกว่าคดีจะคลี่คลาย นอกจากนี้ จากการชันสูตรโดยนิติเวชยังพบว่า ไตของลูกชายตนหายไปข้างหนึ่ง และมีการตัดเล็กลูกชายตนออกไปด้วย ก็ยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางกัลยา ถึงผลการชันสูตรอย่างเป็นทางการ นางกัลยาระบุว่า นิติเวชยังไม่ได้ให้ผลชันสูตรอย่างเป็นทางการกับตนมา แต่จากการแถลงของมูลนิธิปวีณานั้นชัดเจนว่า ร่างกายของลูกชายตนมีร่องรอยถูกของแข็งหลายจุด และไตของลูกชายตนก็หายไป 1 ข้าง ขณะที่พ.ต.อ.บุญญฤทธิ์ โลห์สุวรรณ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า มูลนิธิปวีณามาพบตนไม่ได้กล่าวถึงเรื่องไตหาย ต้องรอผลชันสูตรอย่างเป็นทางการก่อน
คดีดช.สุภชัย ธรรมานุพัฒน์ หรือ ต็อก อายุ 13 ปี เกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 3 เมษายน 2557 ดช.ต็อก ไปเล่นน้ำที่สระน้ำในโครงการจัดสรร ทางเข้าหมู่บ้านบัวสีเงิน ม. 2 ต.วัดจันทร์ อ.เมืองพิษณุโลก กับเพื่อนอีก 2 คน โดยทั้ง 3 คน ได้ไปเล่นเกมส์ที่ร้านเกมส์แห่งหนึ่งก่อน แล้วขี่รถจักรยานไปเล่นน้ำ กระทั่งมีการแจ้งจนท.ตำรวจว่า ดช.ศุภชัย จมน้ำเสียชีวิต จนท.กู้ภัยข่าวภาพมางมร่างเด็กขึ้นมาได้ มีร้อยเวรและแพทย์เวรรพ.ม.นเรศวรมาชันสูตรที่เกิดเหตุ รวมถึงมารดาและบิดาของดช.ต็อกก็มาที่เกิดเหตุ เบื้องต้นในวันนั้น ทางญาติและจนท.สรุปว่าดช.ต็อกจมน้ำเสียชีวิต ญาติจึงนำร่างมาบำเพ็ญกุศลที่วัดท่ามะปราง อ.เมืองพิษณุโลก กำหนดฌาปณกิจในวันที่ 7 เมษายน 2557 แต่ปรากฏว่า ประมาณบ่ายสองของวันที่เตรียมการฌาปณกิจ ดช.เอ เพื่อนของดช.ต็อก ที่ไปเล่นน้ำด้วยกัน ได้บอกกับมารดาและบิดาของดช.ต็อกว่า ดช.ต็อกไม่ได้จมน้ำเอง มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 10 คนมาที่เกิดเหตุ และมีจำนวนหนึ่งประมาณ 3 คน ได้ใช้ไม้ตีเข้าที่ศรีษะและท้องของดช.ต็อก จากนั้นจับร่างดช.ต็อกโยนลงสระน้ำ กระทั่งเสียชีวิตในสระน้ำ จากนั้นมารดาของดช.ต็อกจึงระงับการเผาศพไปก่อน และเข้าร้องเรียนกับผกก.เมืองพิษณุโลกรวมถึงสื่อมวลชนพิษณุโลก
อย่างไรก็ตาม พยานที่ไปเล่นน้ำด้วยกันมี 2 คน คนแรกคือดช.เอ และดช.บี ดช.เอ ให้การว่าคนมาทำร้าย แต่ดช.บีกลับให้การว่าจมน้ำเอง กระทั่งวันที่ 9 เมษายน 2557 พนักงานสอบสวนได้เรียกดช.เอมาสอบปากคำอีกรอบ ก็มีการกลับคำให้การไปมา เข้าไปช่วงแรกอ้างว่ากุเรื่องขึ้นมา เข้าไปอีกรอบยืนยันตามคำเดิม ว่ามีกลุ่มวัยรุ่นมาทำร้าย ขณะที่การสอบสวนของจนท.ตำรวจ ได้สอบพยานทุกฝ่าย รวมถึงกลุ่มวัยรุ่นที่ถูกกล่าวหาว่ารุมทำร้ายดช.ต็อก คดียังไม่ได้ผลสรุป แต่ก็มีการออกมายืนยันจากพล.ต.ต.ชฏิล พรหมไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลกว่า จากการสอบสวนหลายฝ่าย พยานหลักฐาน เชื่อว่าดช.ต็อกจมน้ำเสียชีวิตเอง ขณะที่นางกัลยา มารดาของดช.ต็อก เชื่อว่าลูกชายโดนทำร้าย และเกรงว่าจะมีการข่มขู่พยาน จึงร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณา ฯและของให้จนท.ตำรวจสภ.เมืองพิษณุโลก นำร่างดช.ต็อกไปชันสูตรอีกครั้งที่สถาบันนิติเวชวิทยารพ.ตำรวจ กระทั่งวันนี้ 15 เมษายน 2557 จนท.มูลนิธิปวีณาฯ ก็มาเดินเรื่องให้ครอบครัวดช.ต็อก ให้ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลกดำเนินการสอบสวนคดีให้คลี่คลาย