เมื่อเวลา17.00 น. วันที่ 10 เม.ย. 57 ที่สำนักงานสาธารรัก โบสถ์คริสตจักรสันติ อ.เมืองพิษณุโลก นายวันชัย เชยล้อมขำ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 227/63 หมู่ 4 ต.อรัญญิก อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อนางกัญฐญาณ์ ภู่สวาสดิ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พิษณุโลก พร้อมเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.พิษณุโลก หลังจาก ด.ญ.ดาวเรือง หรือ น้องแตงโม เชยล้อมขำ อายุ 11 ปี บุตรสาว ได้หายไปตัวกับ ด.ญ.จินตนา หรือ น้องเภา เชยล้อมขำ อายุ 14 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวตนละแม่ พร้อมน้องฝ้าย ซึ่งเป็นลูกสาวเพื่อนบ้าน รวมทั้งสิ้น 3 คน เมื่อสองวันที่ผ่านมา ซึ่งตนเองได้พยายามตามหาตามสถานที่ต่างๆ ที่น้องแตงโม และ น้องเภาไปแล้วแต่ก็ไม่พบ กลัวว่าลูกสาวจะถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกไปทำมิดีมิร้าย เกี่ยวกับการหลอกไปขายบริการทางเพศนายวันชัย กล่าวว่า ตนเคยมีภรรยามาแล้ว 3 คน มีบุตรรวม 4 คน ภรรยาคนแรกมีลูกชาย 1 คน และได้แยกทางกับภรรยา ต่อมามีภรรยาคนที่ 2 มีลูกสาว 2 คน คนแรกแยกไปมีครอบ ส่วนคนที่ 2 ชื่อ น.ส.จิตนา เชยล้อมขำ หรือน้องเภา ต่อมาตนได้เลิกกับภรรยาอีก กระทั่งไปมีภรรยาคนที่ 3 มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ชื่อ ด.ญ.ดาวเรือง เชยล้อมขำ หรือน้องโม กระทั่งภรรยาคนสุดท้ายได้เสียชีวิตเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ตนจึงต้องเลี้ยงดูลูกสาวทั้งน้องเภา และน้องโม เพียงลำพัง แต่ช่วงหลังน้องเภาได้ไปอยู่กับแม่และถูกแม่บังคับไปในทางไม่ดี เพราะแม่มีพฤติกรรมลักษณะนี้ แต่ช่วงหลังลูกสาวออกไปอยู่ที่อื่น เพราะทนพฤติกรรมไม่ไหวนายวันชัย กล่าวอีกว่า ช่วงหลังน้องโมได้แอบมาหาน้องและพาไปเที่ยวหายไป 2 วัน ตนได้ออกตามหากระทั่งไปเจอลูกทั้งสองอยู่บ้านคนอื่น ในละแวกวัดจันทร์ตะวันออก ต.ในเมืองพิษณุโลก จึงได้พาน้องโมกลับบ้าน ปรากฏว่าน้องเภาได้ตามมาที่บ้านอีกพร้อมกับพาน้องโม และ ด.ญ.ข้างบ้าน อายุ 11 ปี หายไปอีกคน และยังหายตัวไม่พบถึงขณะนี้ ตนกลัวลูกสาวจะถูกหลอกไปขายบริการทางเพศ จึงต้องร้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นางกัญฐญาณ์ ภู่สวาสดิ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ครอบครัวของน้องโม ได้มีปัญหาทางครอบครัว คือ พ่อแม่แยกทางกัน ทางสำนักงานพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดพิษณุโลก ได้เข้ามาช่วยเหลือดูแลเด็กทั้งน้องแตงโม และ น้องเภา มาตลอด ซึ่งเมื่อเด็กทั้งสองหายตัวไป ทางสำนักงานพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์ ได้รับเรื่องไว้ในการช่วยตามหา โดยจะทำการปรึกษาอัยการจังหวัดถึงแนวทางการช่วยเหลือ จากนั้นก็จะเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้งนางกัญฐญาณ์ ภู่สวาสดิ์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบประวัติของน้องแตงโม และ น้องเภา นั้นเสี่ยงที่มีถูกหลอกไปในการขายบริการทางเพศ ซึ่งในจังหวัดพิษณุโลก นั้น ยังพบว่ามีขบวนการเหล่านี้ ซึ่งตนเองอยากจะเตือนพ่อแม่ผู้ปกครอง ในช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม และอยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งหากบุตรหลานของท่านหายตัวไปก็ควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหาทันที ไม่ควรนิ่งเฉย เพราะอาจทำให้เด็กอยู่ในอันตรายต่อขบวนการเหล่านี้ได้นางวาลัย วงษ์วรรณา ผู้จัดการโครงการพัฒนาเด็กสายธารรัก กล่าวว่า น้องแตงโม เป็นเด็กในโครงการสายธารรัก คริสตจักรสันติ ในมูลนิธิดรุณาธร ได้เข้ามาสู่โครงการพัฒนาเด็กมาประมาณ 3-4ปีแล้ว เนื่องจากน้องแตงโม เป็นผู้ที่เสี่ยงต่อถูกหลอกขายบริการทางเพศ เนื่องจากมีคนรอบข้างถูกหลอกขายบริการทางเพศไปแล้ว จึงเข้าไปคุยกับนายวันชัย ว่าจะให้น้องแตงโมมาพักอยู่บ้านนพคุณ ซึ่งเป็นบ้านเลี้ยงเด็กของโบสถ์คริสตจักรสันติ แต่ทางพ่อแจ้งว่าดูแลสามารถได้ แต่ทางเราได้เข้าไปเยี่ยมบ้านน้องแตงโมเป็นประจำ ปกติน้องโมจะมาร่วมกิจกรรมทุกวันเสาร์และบางครั้งในวันปกติ และได้หายตัวไป ทางพ่อน้องโมจึงได้มาแจ้งและขอความช่วยเหลือตามหาลูกสาวนางวาลัย วงษ์วรรณา ผู้จัดการโครงการพัฒนาเด็กสายธารรัก กล่าวอีกว่า สำหรับน้องเภา พี่สาวคนละแม่กับน้องโมนั้น ก่อนหน้าน้องเภามีพฤติกรรมที่ไปเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณี เนื่องจากก่อนหน้าได้หลอกเด็กมาแล้วครั้งหนึ่ง กระทั่งได้กลับมาที่โครงการสายธารรัก คริสตจักรสันติ เพื่อขอมาอยู่ในความดูแลของเรา จึงได้รับตัวเอาไว้ เพื่อต้องการให้น้องเภากลับตัวใหม่ แต่ปรากฏว่าได้หลอกน้องโมพร้อมกับ ด.ญ.ข้างบ้านไปอีกคนเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำรูปถ่ายชูสองนิ้วของ ด.ญ.ดาวเรือง น้องโม เชยล้อมขำ ซึ่งสวมเสื้อคอกลมลายขวางรูปร่างอ้วนเล็กน้อย ยืนถ่ายรูปกับ ด.ญ.จินตนา เชยล้อมขำ สวมเสื้อสีดำมีตัวอักษรด้านหน้า ต้องการให้ผู้สื่อข่าวนำไปเผยแพร่ทางสื่อ เพื่อให้ผู้คนที่เคยเห็นแจ้งข่าวได้โดยตรงกับนางวาลัย วงษ์วรรณา ผู้จัดการโครงการพัฒนาเด็กสายธารรัก หมายเลขโทรศัพท์ 089-5626418 หรือแจ้งกับนายวันชัย เชยล้อมขำ ผู้เป็นพ่อ หมายเลขโทรศัพท์ 088-1592260