เวลา 10.00 น.วันที่ 8 เม.ย.2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาธรรมสังเวช วัดท่ามะปราง อ.เมือง จ.พิษณุโลก นางกัลยา เกตุนาวา อายุ 32 ปี และนายบุญศักดิ์ ธรรมานุพัฒน์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/155 ถ.บรมไตรโลกนารถ อ.เมือง จ.พิษณุโลก มารดาและบิดาของ เด็กชาย ศุภชัย ธรรมานุพัตน์ อายุ 13 ปี ที่จมน้ำเสียชีวิต บริเวณบ่อดิน หน้าทางเข้าหมู่บ้านบัวสีเงิน ม. 2 ต.วัดจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา ได้ร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรื้อคดีของลูกชายขึ้นมาทำใหม่ หาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เนื่องจากตนเชื่อว่า บุตรชายของตน ไม่ได้จมน้ำเสียชีวิต เนื่องจากว่าลูกชายของตน ว่ายน้ำเป็น เคยไปเล่นน้ำในแม่น้ำน่านบ่อยครั้ง อีกทั้งมีพยานเห็นเหตุการณ์ ว่าในวันเกิดเหตุลูกชายของตน ถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายร่างกาย ก่อนจะโยนร่างของลูกชายที่ยังไม่เสียชีวิตลงไปในบ่อน้ำดังกล่าว แต่คาดว่าลูกชายของตน คงได้รับบาดเจ็บจากการถูกรุมทำร้ายจึงไม่มีแรงที่จะช่วยเหลือตนเองขึ้นมาจากน้ำได้ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตในที่สุด
โดย นางกัลยา เล่าว่า พยานที่ยอมเปิดเผยความจริงในวันสุดท้าย ซึ่งตามกำหนดการเป็นวันเผาของลูกชาย เมื่อเย็นวันที่ 7 เมษายน 2557 ก็เพราะว่า วิญญาณของลูกชายไปเข้าฝัน อีกทั้งคืนวันสุดท้ายก่อนวันเผา เกิดเหตุการณ์ฝาโลงสั่น โต๊ะหมู่ที่วางหน้าโลงศพ ล้มลงมาอย่างไม่มีสาเหตุ ขณะที่รูปหน้าศพ ก็ร่วงหล่นแตกกระจาย ตนเองจึงเชื่อว่า ลูกชายต้องการร้องขอความเป็นธรรม ให้หาตัวคนทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ตนเองจึงเลื่อนการเผาศพลูกชายออกไป จนกว่าคดีจะคลี่คลาย
นางกัลยา เผยต่อว่า ช่วงวันที่ 3 ของการตั้งสวดศพ ตนได้พาพระมาที่ขอบสระ เพื่อทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของลูกชายตน และมีคนงานก่อสร้างที่อยู่บริเวณนั้น ชื่อว่าไก่ เข้ามาดูว่าพวกตนทำอะไร และบอกกับตนว่า ลูกชายของตนอาจจะไม่ได้จมน้ำตายธรรมดาก็ได้ เพราะสระน้ำแห่งนี้ขุดดินมาถมที่ และมีเด็กมาเล่นน้ำหลายคน ยังไม่มีเด็กจมน้ำเลย และวันนั้น เห็นกลุ่มลูกชายตนมาเล่นน้ำกันก่อน และมีกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ตามเข้ามา แต่คนชื่อไก่ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ว่ามีการทำร้ายลูกชายตนหรือไม่
ต่อมา ในวันที่ 7 เมษายน 2557 เวลาประมาณ 14.00 น. กำลังเตรียมการจะทำพิธีเผาศพลูกชายของตน เพื่อนของลูกชายที่อยู่ในเหตุการณ์จมน้ำ เข้ามาบอกตนว่า อยากพูดความจริง พร้อมกับสาบานต่อหน้าพระพุทธชินราชว่าถ้าพูดเท็จ ขอให้มีอันเป็นไปภายใน 3 วัน เพื่อนลูกชายเล่าให้ฟังว่า หลังจากเล่นเกมส์ ได้ชวนลูกชายตนกับเพื่อนอีกคนหนึ่งมาเล่นน้ำที่สระน้ำแห่งนี้ และมีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 10 คนขี่รถจักรยานยนต์เข้ามา พร้อมกับตะโกนเรียกลูกชายตนขึ้นมาจากสระ จากนั้นได้พาลูกชายตนไปที่ริมสระอีกด้านหนึ่ง และใช้ไม้ฟาด รุมทำร้ายลูกชายตน จากกั้นก็โยนลูกชายตนลงสระน้ำ เมื่อตนได้ฟังความจริงจากเพื่อนลูกชายตน จึงยุติการเผาไว้ก่อน พร้อมกับพาเพื่อนลูกชายไปพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้สอบสวนเพิ่มเติม
นางกัลยา เผยต่อว่า ลูกชายตนชอบเล่นเกมส์ และว่ายน้ำเป็น วันเกิดเหตุก็ให้เงินไปเล่นเกมส์ 15 บาท จะได้ไม่ตาย ก่อนหน้านี้ในเฟซบุ๊คของลูกชายก็มีข้อความลักษณะขู่ทำร้ายเข้ามาเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2557 กระทั่งมาจมน้ำเสียชีวิตในวันที่ 3 เมษายน 2557 วันนั้นตนกำลังเสียใจ แพทย์มาชันสูตรก็มีการผ่าและลงความเห็นว่าจมน้ำเสียชีวิต กระทั่งมาทราบความจริงจากเพื่อนลูกชาย จึงขอเก็บศพลูกชายไว้ก่อน ยังไม่เผา อยากให้ตำรวจทำคดีให้กระจ่าง
ล่าสุดนางกัลยา ได้พาสื่อมวลชน ไปดูที่เกิดเหตุเป็นสระน้ำก่อนถึงหมู่บ้านบัวสีเงิน พร้อมกับ ด.ช.บอย นามสมมุติ ที่อยู่ในที่เกิดเหตุพร้อมผู้ตาย โดยเฉพาะสระน้ำลึกประมาณ 5 เมตร และที่บริเวณขอบสระน้ำนั้น นางกัลยา ได้ชี้ให้สื่อมวลชนได้ทราบว่ามีไม้หน้า 3 ที่คาดว่ากลุ่มวัยรุ่นน้ำมาใช้ทำร้ายลูกชายตนเอง และอยากให้เจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบและเก็บหลักฐานใหม่
ขณะที่ ด.ช. บอย นามสมมุติ เล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า ในวันเกิดเหตุ 3 เมษายน 2557 ช่วงเวลาประมาณบ่ายสอง ตนเองและผู้ตาย และเพื่อนอีกคนหนึ่ง ได้ขี่รถจักรยานมาจากร้านเกมส์แล้วมาเล่นน้ำที่สระน้ำดังกล่าว หลังจากนั้นก็มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 10 คนตามมา และเรียก ด.ช.ศุภชัย ผู้เสียชีวิต ขึ้นจากสระน้ำแล้วด่าทอ และได้มีการทำร้ายกัน โดยใช้ไม้ฟาดเข้าที่ตัวและหัวของดช.ศุภชัย จากนั้นกลุ่มวัยรุ่น ก็ได้ลากตัว ด.ช.ศุภชัย โยนลงไปในบ่อน้ำ ซึ่ง ด.ช.ศุภชัย ก็ไม่สามารถช่วยตนเองขึ้นมาได้ ต่อจากนั้น กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ได้ข่มขู่ตนเอง ว่าหากเรื่องนี้ถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะปาดคอให้เสียชีวิตอีก ก่อนที่จะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป จากนั้นตนจึงรีบวิ่งไปตามคนงานก่อสร้างมาช่วยเหลือ ด.ช.ศุภชัย แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้แล้ว เนื่องจาก ด.ช.ศุภชัย ได้เสียชีวิต เนื่องจากจมน้ำไปแล้ว
ดช.บอยเล่าต่อว่า คืนวันก่อนเผา ตนฝันเห็นเพื่อนมาเข้าฝัน อยากให้ตนพูดความจริง กระทั่งวันเผาศพ ตนจึงยอมเล่าเรื่องนี้ให้แม่ของผู้เสียชีวิตฟัง วันนั้นที่ไม่ยอมเล่าความจริงเพราะโดนขู่ไว้โดยกลุ่มวัยรุ่น ถ้าเรื่องถึงตำรวจจะมาเอาชีวิตตน
ทั้งนี้ หลังจากแจ้งข้อมูลร้องเรียนกับสื่อมวลชนแล้ว นางกัลยา ได้เตรียมเข้าไปพบขอความเป็นธรรมกับผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อให้ทำคดีและหาหลักฐานเพิ่มเติม เนื่องจากเกรงในความปลอดภัยของพยานที่ให้การ และตำรวจที่สอบสวนก็บอกว่าจะสอบสวนตามขั้นตอน แต่ก็ไม่มาเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งไม้ที่เป็นอาวุธทำร้ายลูกชายตน และหลักฐานในที่เกิดเหตุ
ร.ต.ต.ประทิน ไชยยงค์ ร้อยเวร เจ้าของคดี กล่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณที่
ด้าน พ.ต.อ.บุญญฤทธิ์ โล่สุวรรณ ผกก.เมืองพิษณุโลก กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสื
/////
ข่าวที่เกี่ยวข้อง เด็กชายวัย 13 ปีเล่นน้ำในบ่อดินจมน้ำดับ
ที่มา – https://www.phitsanulokhotnews.com/2014/04/04/50744