เตือนผู้ปกครองเฝ้าระวังบุตรหลานเสี่ยงจมน้ำ

DSCF0056นายแพทย์บุญเติม  ตันสุรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกเปิดเผยว่าการจมน้ำเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปี เสียชีวิตสูงเป็นอันดับหนึ่งและจากข้อมูลในช่วง 11 ปีที่ผ่านมา คือในปี 2546 – 2556 พบว่ามีเด็กจมน้ำเสียชีวิตเฉลี่ยสูงถึง 1,298 คน/ปี หรือเกือบวันละเกือบ 4 คน โดยเฉพาะช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม เป็นเด็กที่จมน้ำเสียชีวิตมากที่สุดเพราะตรงกับช่วงปิดภาคการศึกษาและช่วงฤดูร้อนพบว่าใน 3 เดือนมีเด็กจมน้ำเสียชีวิตถึง 453 คน จากข้อมูลเด็กจมน้ำเสียชีวิตตั้งแต่ ปี 2553 – 2556 โดยในปี 2553 จำนวน 1,138 ราย ปี 2554 จำนวน 1,086 ราย ปี 2555 จำนวน 1,051 ราย และในปี 2556 จำนวน 925 ราย สำหรับจังหวัดพิษณุโลกพบว่าตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2556 มีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เสียชีวิตจากการจมน้ำ จำนวน 20 ราย โดยแบ่งเป็นช่วงอายุ 1 – 5 ปี จำนวน 8 ราย อายุ 6 – 10 ปี จำนวน 7 ราย อายุ 11 – 15 ปี จำนวน 5 ราย

สำหรับมาตรการในการป้องกันการจมน้ำสำหรับท้องถิ่น ชุมชน และประชาชน ได้แก่

–                   สำรวจแหล่งน้ำเสี่ยงในชุมชน แหล่งน้ำเพื่อการเกษตร อ่างเก็บน้ำ หนองบึง แม่น้ำ คลอง เป็นต้น

–                   จัดสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่เด็ก เช่นสร้างรั้ว หาฝาปิด ฝังกลบหลุมหรือบ่อที่ไม่ได้ใช้ ติดป้ายคำเตือน เทน้ำทิ้งหลังใช้งาน กำหนดพื้นที่เล่นที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก จัดให้มีอุปกรณ์ช่วยคนตกน้ำ

–                   มีมาตรการทางด้านกฎหมาย กฎระเบียบ กฎข้อบังคับ เช่นห้ามดื่มสุราก่อนลงเล่นน้ำ ต้องใส่ชูชีพเมื่อโดยสารเรือ

–                   เฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัยในชุมชนโดยเฉพาะช่วงปิดภาคการศึกษาเช่นประกาศเตือนเสียงตามสายในชุมชน คอยตักเตือนเมื่อเห็นเด็กเล่นน้ำตามลำพัง

–                   สอนให้เด็กรู้จักแหล่งน้ำเสี่ยงและอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น

ส่วนข้อแนะนำสำหรับผู้ปกครองและเด็กเพื่อป้องกันการเสียชีวิตจากการจมน้ำ ประกอบด้วย

–                   ผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็กต้องดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด ไม่เผอเรอทิ้งเด็กเล็กไว้ตามลำพัง เช่นขณะรับโทรศัพท์ ทำกับข้าว หรือเดินไปเปิด – -ปิดปะตูบ้าน

–                   สอน การเรียนรู้กฎหมายแห่งความปลอดภัย เชนไม่เล่นใกล้แหล่งน้ำ มาเล่นน้ำคนเดียว ไม่ลงไปเก็บดอกบัว กระทงในน้ำ ไม่เล่นน้ำตอนกลางคืน รู้จักแหล่งน้ำเสี่ยงและอันตรายที่เกิดขึ้นรู้จักประเมินสภาพแหล่งน้ำที่ลงไป เช่นความตื้น ความชัน ความเย็น และกระแสน้ำ รู้จักใช้ชูชีพเมื่อต้องการโดยสารเรือ

–                   สอน เรียนรู้วิธีการว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอด เช่นการลอยตัวหงายเหมือนแม่ชีลอยน้ำ การลอยตัวคว่ำ การใช้ขวดน้ำพลาสติกป่าว ปิดฝาช่วยในการลอยตัวและรู้วิธีการช่วยเหลือที่ถูกต้อง คือต้องไม่กระโดดลงไปช่วยเหลือ แต่ให้ช่วยด้วยการตะโกนเรียกผู้ใหญ่ หรือใช้อุปกรณ์ในการช่วย

ส่วนการปฐมพยาบาลที่สำคัญที่สุดสำหรับคนจมน้ำคือการช่วยให้ผู้ประสบภัยหายใจได้ให้เร็วที่สุด ที่สำคัญห้ามจับเด็กอุ้มพาดบ่าวิ่งรอบสนาม กดท้องเพื่อกระแทกเอาน้ำออก หรือจับเด็กห้อยหัวเขย่าเอาน้ำออก ซึ่งเป็นวิธีที่ผิด อีกทั้งจะทำให้การช่วยเหลือเด็กช้าลงไปอีก ซุ่งมีผลทำให้เด็กขาดอากาศหายใจ และขั้นตอนในการปฐมพยาบาล โทรศัพท์แจ้งที่หมายเลข 1669 หรือหน่วยพยาบาลที่ใกล้ที่สุด จับคนจมน้ำนอนหงายบนพื้นราบแห้งและแข็งแรง ตรวจดูว่าความรู้สึกตัวหรือไม่โดยใช้มือ 2 ข้างจับไหล่เขย่า พร้อมเรียกเสียงดังๆ เช็ดตัวให้แห้งเปลี่ยนเสื้อผ้าและห่มผ้าให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และนำส่งโรงพยาบาลใกล้บ้าน

แสดงความคิดเห็น