เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 มี.ค. ที่ตึกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลพุทธชินราช อ.เมือง จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก ร่วมกับโรงพยาบาลพุทธชินราช จัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 (H1N1) ให้แก่ประชาชนที่มาใช้บริการเพื่อเป็นการให้ความรู้ ความเข้าใจ และรู้จักวิธีการป้องกันอย่างถูกต้อง คือ ให้ล้างมือบ่อยๆ จนเป็นนิสัยก่อนรับประทานอาหาร และหลังขับถ่าย หรือหลังหยิบจับสิ่งสกปรก หลีกเลี่ยงการใช้มือที่ไม่ได้ล้างสัมผัสบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะตา จมูก ปาก หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยและอยู่ในสถานที่มีคนอยู่แออัด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก
ทั้งนี้ จากรายงานพบว่า มีผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 H1N1 ทั้งประเทศแล้ว 18 ราย ในส่วนของจังหวัดพิษณุโลก มีผู้ป่วย จำนวนทั้งสิ้น 4 ราย และผู้เสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดมีผู้ป่วย เป็นเจ้าหน้าที่งานเวชระเบียน โรงพยาบาลพุทธชินราช เสียชีวิตด้วยโรค H1N1 เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมา และขณะนี้ยังพบว่ามีผู้ป่วยที่ยังรักษาตนเองอยู่ในโรงพยาบาล แพทย์ต้องเฝ้าระวัง ด้วยการนำผู้ป่วยแยกไปรักษาในห้องปลอดเชื้อ
สำหรับการจัดกิจกรรมดังกล่าว มีการประชุมบุคลากรทางการแพทย์ ให้ตระหนักและเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากโรคไข้หวัดใหญ่ H1N1 เนื่องจากเป็นโรคที่ติดต่อกันง่ายมาก อีกทั้งรณรงค์ให้ประชาชนและผู้ป่วยที่มาใช้บริการ ได้รู้ถึงวิธีการป้องกันตนเองจากโรค ด้วยการกินของร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย หากเป็นไข้หวัด ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของ สคร.9 และเจ้าหน้าที่ รพ.พุทธฯ มาร่วมทำกิจกรรมและให้ความรู้แก่ประชาชน
ทางด้าน นพ.สุชาติ พรเจริญพงษ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2557 พบการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่กระจายในหลายจังหวัด โดยที่การป่วยเพิ่มขึ้นไม่มากนัก แต่พบจำนวนผู้เสียชีวิตสูงขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากผู้ป่วยส่วนหนึ่งมีอาการคล้ายไข้หวัดทั่วๆ ไป และไม่ได้ไปรับการรักษาในโรงพยาบาล หรือไม่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ จึงไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ดังนั้นควรให้แพทย์ผู้รักษาต้องเริ่มให้ยาต้านไวรัสเร็วขึ้นในกลุ่มผู้ป่วยที่มาด้วยอาการไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และหอบเหนื่อย โดยเฉพาะในวัยผู้ใหญ่ ถึงแม้ว่าอาจตรวจไม่พบความผิดปกติในปอดชัดเจน และไม่มีโรคประจำตัว เนื่องจากผู้ป่วยส่วนหนึ่งอาจพัฒนาไปสู่ภาวะปอดบวมรุนแรงและเสียชีวิตในเวลาต่อมาได้.