เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 มี.ค. 57 ที่หน้าตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก พ.ต.อ.นฤชา สุวรรณลาภา รอง ผบก.จว.พิษณุโลก แถลงผลงานการจับกุมแก๊งยาบ้าเชื่อมโยงเรือนจำได้ผู้ต้องหา จำนวน 3 คน ชื่อนายธานี หรือจุ๋ม สุขเกิด อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่52/359 ม.6 ต.อรัญญิก อ.เมืองพิษณุโลก นายถนอม หรือโก๊ะ ศรีลออ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 236/1 ม.6 ต.ท่าทอง อ.เมืองพิษณุโลก นายพยนต์ หรือล้าน แตงบาง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 ม.4 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมืองพิษณุโลก พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 13,850 เม็ด โทรศัพท์ จำนวน 3 เครื่อง รถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน อเมร่า สีน้ำตาล ทะเบียน บธ-7514 พิษณุโลก และมีชื่อนายทหารยศพันโทที่สติ๊กเกอร์เข้าค่ายทหารติดเอาไว้หน้ากระจกทั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ทำการติดต่อล่อซื้อยาบ้า จำนวน 50 เม็ด จากนายธานี โดยนัดส่งมอบยาบ้ากันที่บริเวณ ถนนขุนพิเรณทรเทพ ด้านหลังโรงแรมน่านเจ้า ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังเอาไว้โดยรอบ กระทั่งถึงเวลานัดนายธานีขับรถยนต์เก๋งนิสันคันดังกล่าวมาส่งยาบ้าให้กับสายตามนัด หลังขับรถยนต์ออกมา เจ้าหน้าที่จึงสกัดควบคุมตัว พร้อมตรวจค้น พบธนบัตรหมายเลขตรงกับที่ใช้ล่อซื้อยาบ้า จึงทำการจับกุมตัว พร้อมทำการขยายผลทำการจับกุมนายพยนต์และนายถนอม โดยเข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 125 ม.4 ต.ท่าทอง และบ้านเลขที่ 104/4 ม.11 ต.ท่าโพธิ์ ตรวจค้นได้ยาบ้าเพิ่มเติมอีก 13,800 เม็ด พร้อมตรวจยึดทรัพย์สิน ซึ่งได้มาจากการค้ายาบ้า มีทีวี ยี่ห้อ แอลซีดี แอลจี 32 นิ้ว เครื่องเสียง ยี่ห้อ โซนี่ 1 ชุด รวมมูลค่าทรัพย์ สินทั้งหมด ประมาณ 500,000 บาทจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่าแก๊งค้ายาบ้าแก๊งนี้ชื่อแก๊งท่าทอง โดยมีนายธานี สุขเกิด ซึ่งเป็นน้องชายนายทหารยศพันโท รายหนึ่งซึ่งอยู่ในพิษณุโลก และเคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาบ้ามาแล้ว เพิ่งพ้นโทษเมืองเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยรู้จักกับนายถอม ศรีลออ ภายในเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ส่วนยาบ้าทั้งหมดได้ซื้อมาจากนายสกานติ์ หรือแต๊ป แซ่ลี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 ม.8 ต.บ่อ อ.เมืองน่าน เพิ่งพ้นโทษคดียาบ้าพร้อมกับนายถนอม เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาเช่นกัน หลังพ้นโทษได้ร่วมกันกลับมาคายาบ้าเหมือนเดิม กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมได้ในที่สุดพ.ต.อ.นฤชา สุวรรณลาภา รอง ผบก.จว.พิษณุโลก กล่าวว่า ขณะนี้กำลังทำการสอบสวนสอบสวนในเชิงลึก พร้อมกับการตรวจสอบบัญชีเงินฝากที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องแต่อย่างใด