วันที่ 26 กุมภาพันธ์ .57 ที่มหาวิทยาลัยนเรศวร ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) มหาวิทยาลัยนเรศวร และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตากได้ลงนามความร่วมมือโครงการ”ส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการสู่ตลาดการค้าและการท่องเที่ยวเขตชนแดนไทย-พม่า”อย่างเป็นทางการ เพื่อส่งเสริมการถ่ายทอดกลยุทธ์ วางแผนการเงินให้ผู้ประกอบการภาคเหนือตอนล่างลงทุนด้านการค้าชายแดนไทย-พม่า เสริมองค์ความรู้ พร้อมถ่ายทอดกลยุทธ์ วางแผนการเงิน และแผนธุรกิจการค้าชายแดนให้แข็งแกร่งขึ้น ตามกำหนดระยะเวลา 2 ปีครอบคลุมผู้ประกอบการ SMEs 3 กลุ่ม คือผู้ประกอบการที่ผ่านการบ่มเพาะจาก UBIมหาวิทยาลัยนเรศวร,ผู้ประกอบการเครือข่ายสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก ปัจจุบันมีสมาชิก 94รายและผู้ประกอบการค้า-ขายชายแดนไทย-พม่า เครือข่ายสภาอุตสาหกรรม ธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันพบว่าปัญหาและอุปสรรค์ของผู้ประกอบการในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง คือ ขาดแรงงาน และขาดเงินทุน
ศ.ดร.สุจินต์ จินายน อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวว่า มหาวิทยาลัยนเรศวรได้คัดเลือกผู้ประกอบการเข้ารับการอบรมตามกรอบความร่วมมือทั้ง 3 องค์กร เบื้องต้น 20 ราย เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ผลักดันผลงานวิจัย นวัตกรรมและดำเนินงานพาณิชย์รวมมือด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มรายได้แก่ผู้ประกอบการในเขตชายแดนไทยพม่า
นายวัลลภ เตชะไพบูลย์ กรรมการและผู้จัดการทั่วไปบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้เน้นทำแผนธุรกิจการลงทุน เรียนรู้ด้านการส่งออกสนับสนุนและให้คำปรึกษาให้เข้าถึงแหล่งทุนในระบบสถาบันการเงินกับผู้ประกอบการที่ต้องการขยายตลาดรอบความเติบโตเศรษฐกิจชายแดนไทย-พม่า
นายวัลลภ เตชะไพบูลย์ เปิดเผยว่าสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองไทยช่วงนี้ ส่งผลกระทบต่อการลงทุนภาคเอกชน คือช่วง 2เดือนที่ผ่านมา บสย.วางเป้าการค้ำประกันของสินเชื่อ 12,000 ล้านบาท แต่กลับพบว่า ยอดค้ำประกันสินเชื่อลดลงเหลือ 6,000 ล้านบาท หรือครึ่งหนึ่ง เหตุความเชื่อมั่นของนักลงทุนถอยลง ธนาคารระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ ผู้ประกอบรายใหม่ๆไม่เกิดขึ้น ขณะที่ลูกค้าเดิมๆได้รับผลกระทบเป็นลูกโซ่ จากวงจรระบบรับจำนำข้าว ที่เงินโครงการรัฐรัฐไม่กระจายสู่รากหญ้า ทำให้ผู้ค้าหรือผู้ประกอบการรายย่อย( SMEs ) อาทิ ร้านปุ๋ย ร้านเครื่องมืออุปกรณ์การเกษตรฯลฯได้รับผลกระทบไปตามกัน ทั้งๆที่โครงการ PGS5 ของบสย.มีวงเงินพร้อมจะสนับสนุนเงินทุนแก่ผู้ประกอบการจำนวนมากถึง 180,000 ล้านบาทก็ยังเหลือ แต่ภาวการณ์ช่วงนี้นักลงทุนไม่กล้าและขาดความเชื่อมั่น ยอดสินเชื่อถดถอย บสย.เองก็ได้รับผลกระทบไปด้วย