แนะวิธีช่วยเด็กกลืนสิ่งแปลกปลอมเข้าปาก

IMG_3507วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 นายแพทย์ศิวฤทธิ์  รัศมีจันทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก แถลงข่าวสื่อมวลชน ถึงกรณี เด็กหญิงฐิติชาญา ยิ้มสบาย หรือ น้องออมสิน อายุ 8 เดือน อยู่บ้านเลขที่ 355 หมู่ 6 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เป็นบุตรสาวของ นางจันนิภา ฟานเขียว อายุ 19 ปี และ นายพิทยา ยิ้มสบาย  อายุ 35 ปี  ได้นำถุงมือยางดังกล่าว เป็นถุงมือแบบใส ที่พ่อเด็กนำมาเป่าให้ลูกเล่นแทนโป่ง แต่ถุงมือยางเกิดแตกทำให้เด็กคว้าเศษถุงมือยางใส่ปากและหลุดเข้าคอไป ด้วยความตกใจ ผู้เป็นพ่อให้น้องออมสินนอนหงายพยายามใช้มือล้วงและเป่าปาก ส่งผลให้เศษถุงมือยางขนาด 4-5 เซนติเมตร  เคลื่อนเข้าไปติดหลอดลมใหญ่ ขั้วปอดซ้ายจนเลือดไม่สามารถไปเลี้ยงสมองได้เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

IMG_3500

นายแพทย์ศิวฤทธิ์ กล่าวว่า การที่อาหารหรือสิ่งแปลกปลอม อย่างเม็ดถั่ว เม็ดน้อยหน่า ลูกปัดเข้าไปทางเดินหายใจ ขบวนการในการช่วยชีวิตมีเวลาเพียง 5 นาที เพื่อไม่ให้สมองขาดเลือดนานจนเกิดความพิการหรือเสียชีวิต ซึ่งสิ่งแปลกปลอมพวกเมล็ดผลไม่ที่มีขนาดเล็กไม่โตมากสามารถใช้เครื่องมือแพทย์หยิบออกมาได้ แต่สำหรับกรณีน้องออมสินที่พ่อแม่ปล่อยให้หยิบเศษถุงมือยางเข้าปาก ด้วยถุงมือยางเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้  การช่วยชีวิตไม่ควรใช้มือล้วง การล้วงอาจไปดันให้วัสดุสิ่งแปลกปลอมเคลื่อนเข้าไปด้วยในเป็นผลเสียมากกว่าผลดี

 

วิธีที่ดีที่สุดกรณีมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปให้ก้มหัวเด็กให้ต่ำแล้วใช้มือทุบที่หลังให้สิ่งที่ติดอยู่หลุดออกมา เด็กเล็กมาจับยกตัวหัวห้อยแล้วทุบที่หลังให้สิ่งที่ติดอยู่หลุดออกมา แต่ถ้าเป็นเด็กโตให้กดที่กลางลำตัวก้มหัวลงแล้วใช้มือทบที่ทรวงอก ให้ทรวงอกขยายออกมีแรงดันวัสดุออกมาเอง สิ่งแปลกปลอมหากหลุดในช่องทางเดินอาหารไม่มีปัญหา แต่จะมีปัญหาถึงชีวิตหากเข้าไปทางเดินหายใจ พ่อแม่ผู้ปกครองจึงต้องรู้ทันเพื่อจะได้แก้ไขสถานการณ์สามารถช่วยชีวิตลูกหลานและคนใกล้ชิดได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สลดเด็กหญิงวัย 8 เดือนกลืนถุงมือยางดับอนาถ

ที่มา – https://www.phitsanulokhotnews.com/2014/02/23/49121

แสดงความคิดเห็น