วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 เภสัชกรเชิดเกียรติ แกล้วกสิกิจ หัวหน้ากลุ่มสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก กรมควบคุมโรค เผยว่า จากการทำแบบสำรวจ (โพล) ในกลุ่มเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมรณรงค์ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ กับหน่วยงานที่ผ่านมา พบการปฏิบัติตัวของกลุ่มตัวอย่าง นักเรียน นักศึกษา ช่วงอายุ 16-25 ปี เคยมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลที่ไม่ใช่สามีหรือภรรยา โดยไม่สวมถุงยางอนามัยถึงร้อยละ 36.2 มีทัศนคติว่าการมีเพศสัมพันธ์กับเพื่อนหรือแฟนจะปลอดภัยจากโรค ร้อยละ 13.7 ผู้ตอบแบบสอบถามถึงร้อยละ 39.3 เห็นว่าเมื่อมีความรักแล้วสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้โดยไม่ต้องแต่งงาน และที่น่ากังวลคือมีเยาวชนมากถึงร้อยละ 72.4 มีความคิดเห็นว่า การมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัย กับ การไม่ใช้ถุงยางอนามัย ให้ความรู้สึกทางเพศที่แตกต่างกัน เพราะรู้สึกว่าไม่เป็นธรรมชาติ
จากผลโพลดังกล่าว พบว่าค่านิยมและความคิดของเยาวชนดังกล่าว อาจจะส่งผลให้มีเพศสัมพันธ์กับคนรักโดยขาดทักษะที่ถูกต้องในการป้องกันตนเอง อาจทำให้เกิดปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึ่งประสงค์ การติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ รวมถึงผลกระทบด้านอื่นๆ ตามมาอีกจำนวนมาก
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คือ กลุ่มโรคต่างๆ ที่ติดต่อจากคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่งโดยการมีเพศสัมพันธ์ บางรายอาจติดต่อกันโดยการสัมผัส หรือถ่ายทอดสู่ลูกขณะอยู่ในครรภ์ โรคนี้แบ่งตามลักษณะอาการ คือ 1) แผล ได้แก่ ซิฟิลิส แผลริมอ่อน เริมอวัยวะเพศ 2) ฝี ได้แก่ กามโรคของต่อมและท่อน้ำเหลือง 3) หนอง ได้แก่ หนองใน หนองในเทียม 4) อื่นๆ ได้แก่ หูดหงอนไก่ หูดข้าวสุก พยาธิช่องคลอด เชื้อราช่องคลอด โลน หิด
โรคกลุ่มนี้จะมีอาการคล้ายคลึงกัน แต่มีสาเหตุจากเชื้อแต่ละชนิด อาการที่น่าสงสัย คือ ตกขาวผิดปกติ หรือมีสีเหลือง กลิ่นเหม็น เจ็บเสียวท้องน้อย มีผื่น ตุ่ม แผลอวัยวะเพศ ขาหนีบบวมหรือเป็นฝี โรคนี้ไม่สามารถหายเองได้ ต้องใช้รักษาที่แตกต่างกัน และสามารถถ่ายทอดสู่ลูกในท้องได้ เมื่อคลอดออกมาเด็กจะพิการ เช่น ตาบอด เพดานโหว่ เป็นต้น
สิ่งที่ต้องคำนึงเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ก็คือ
1. การไม่เปลี่ยนคู่นอน ให้มีสามีหรือภรรยาเดียว
2. ใส่ถุงยางอนามัย
3. อย่ามีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุน้อย เพราะจากสถิติหากมีเพศสัมพันธ์อายุน้อยมีโอกาสติดโรคสูง
4. ให้ตรวจประจำปีเพื่อหาเชื้อโรคแม้ว่าจะไม่มีอาการ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการแต่งงานใหม่
5. เรียนรู้อาการของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
6. อย่าร่วมเพศขณะมีประจำเดือน เพราะจะทำให้เกิดโรคติดต่อได้ง่าย
7. อย่ามีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก หากจำเป็นให้สวมถุงยางอนามัย
8. อย่าสวนล้างช่องคลอดเพราะจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย
เภสัชกรเชิดเกียรติ กล่าวต่อว่า การมีเพศสัมพันธ์เพียงครั้งเดียวอาจติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ และทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคเอดส์มากยิ่งขึ้น การซื้อยากินเองนั้นไม่ปลอดภัยอย่างที่คิด เพราะอาจช่วยให้อาการของโรคดังกล่าวหายไประยะหนึ่ง แต่ไม่หายขาด ต่อมาภายหลังจะแสดงอาการออกมารุนแรงยิ่งขึ้น อีกทั้งประสิทธิภาพของยา ไม่ขึ้นอยู่กับราคาถูกหรือแพง แต่หากได้รับยาไม่ตรงกับโรคที่เป็นอยู่แล้วจะเกิดอันตรายแก่ร่างกายและดื้อยาได้
ประโยชน์การป้องกันไม่ให้เกิดโรคแล้ว ยังทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์อีกด้วย การใช้สารหล่อลื่นที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม เช่น เค-วาย เจล จะช่วยให้การร่วมเพศราบรื่นยิ่งขึ้น ไม่ควรใช้สารประเภทครีม โลชั่นทาผิว วาสลินหรือน้ำมันมะกอก เพราะจะทำให้ถุงยางแตกและรั่วซึมได้ แต่หากมีอาการผิดปกติใดๆหลังการร่วมเพศ ให้รีบไปรับบริการตรวจรักษา และขอคำปรึกษา จากสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านของรัฐและเอกชนทุกแห่งทันที
” สวมเสื้อผ้าเพื่อปกป้องร่างกาย สวมถุงยางอนามัยเมื่อเสี่ยงทุกครั้ง หยุดยั้งโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ “