นปช.พิษณุโลกจวกพรรคเพื่อไทยไม่ประชาธิปไตย

0004เวลา 10.00 น. วันที่ 30 มกราคม 2557 ที่ถนนวังจันทน์ หน้าศาลจังหวัดพิษณุโลก นายกิตติพันธุ์  ยวนทอง แกนนำนปช.พิษณุโลก หรือ เสื้อแดงพิษณุโลก ได้ถัดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนพิษณุโลกถึงความในใจที่ผิดหวังกับพรรคเพื่อไทย หลังจากเช้าวันนี้ ศาลจังหวัดพิษณุโลก ได้นัดนายกิตติพันธ์ มาฟังคำพิพากษาชั้นต้น กรณีที่กลุ่มนปช.พิษณุโลก รวมตัวก่อเหตุขัดขวางจนท.ตร.ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบที่กรุงเทพฯ บริเวณถนนด้านหน้าค่ายเจ้าพระยาจักรี ตชด.31 พิษณุโลกเมื่อปี 2553

 

นายกิตติพันธ์  ยวนทอง แกนนำนปช.พิษณุโลก อายุ 52 ปี เปิดเผยกับผู้สื่อว่าว่า ในวันนี้ศาลชั้นต้น ได้นัดตนมารับฟังคำพิพากษา คดีที่ขัดขวางเจ้าหน้าที่ไม่ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่กรุงเทพฯ ที่หน้าค่ายตชด.31 พิษณุโลกเมื่อปี 2553 ซึ่งเหลือตนต่อสู้คดีอยู่คนเดียวตามลำพัง และวันนี้ศาลก็ได้ตัดสินยกฟ้อง ส่วนจะมีการอุทธรณ์หรือไม่ตนก็ไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับอัยการจังหวัด

0003

นายกิตติพันธ์ เผยต่อว่า วันนี้ที่นัดสื่อมวลชนมาเพราะอยากบอกหลายสิ่งหลายอย่าง โดยเฉพาะรู้สึกผิดหวังกับพรรคเพื่อไทย ที่อดีตนับแต่ปี 2551 เป็นต้นมา ตนได้ร่วมกิจกรรมกับกลุ่มนปช.พิษณุโลกมาโดยตลอด เพื่อต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย เป็นทั้งแกนนำ ลงทั้งเงิน ทั้งแรง ร่วมกับเสื้อแดงพิษณุโลกทำกิจกรรมต่อต่านรัฐประหาร เรียกร้องประชาธิปไตย และเมื่อปี 2553 ก็เป็นแกนนำร่วมกับนปช.พิษณุโลก ที่หน้าค่ายตดช.31 ไม่ต้องการให้จนท.ตำรวจไปปฏิบัติหน้าที่ที่กรุงเทพฯ จนถูกส่งฟ้องดำเนินคดีกับนปช.พิษณุโลกอีกหลายคน และที่ผ่านมา ตนก็ต่อสู้มาโดยตลอด เคยมีอดีตสส.มาช่วยประกันตัว แต่หลังจากส.ส.หมดสภาพทางรัฐธรรมนูญ ตนก็เรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยมาช่วยประกันตัวตน แต่เขาไม่มา และไม่ได้รับความช่วยเหลือใด ๆ จากพรรคเพื่อไทย กระทั่งศาลได้นัดตัดสินชั้นต้นยกฟ้องในวันนี้

 

นายกิตติพันธ์ เผยต่อว่า ตนผิดหวังกับพรรคเพื่อไทย ผิดหวังกับระบอบทักษิณมาก พรรคเพื่อไทยบอกว่าเรียกร้องประชาธิปไตย แต่พรรคกับไม่ใช่พรรคประชาธิปไตย ไม่มีประชาธิปไตยในพื้นที่ เป็นพรรคที่รับคำสั่งโดยดูไบอย่างเดียว คำสั่งชี้เป็นชี้ตายทุกอย่างไม่ว่างบประมาณ ไม่ว่าอะไรทุกอย่าง จะมีกลุ่มของตระกูลชินวัตรอย่างเดียว เราเล่นการเมือง เรียกร้องประชาธิปไตยมาตั้งแต่พลังธรรม เราเห็นการเมืองขณะนี้ ในฐานะที่ตนเป็นนปช. เพื่อร่วมประชาธิปไตย แต่ปรากฏว่าขณะนี้พรรคไม่เป็นประชาธิปไตย ความเป็นประชาธิปไตยไม่มี เป็นพรรคเพื่อใคร

0002

นปช.พิษณุโลก น่าสงสาร ทุกคนร่วมมือร่วมใจกันดี ต่อสู้เรียกร้องเพื่อประชาธิปไตยมาโดยตลอด เพียงแต่ว่านักการเมืองคอยฉกฉวยผลประโยชน์มากกว่า ประชาชนคนพิษณุโลกรักประชาธิปไตย ตนร่วมกับคนเสื้อแดงมาโดยตลอด ในนปช.พิษณุโลก อยากเห็นประเทศชาติอยู่ตรงกลาง ให้ฝ่ายซ้าย ฝ่ายขวารักสามัคคีกัน อยากสู้ แต่สู้เพื่อทักษิณ ผมสู้ไม่ไหวแล้ว

 

ผู้สื่อข่าวถามนายกิตติพันธ์ว่า ที่มาออกแถลงข่าวกับสื่อมวลชนวันนี้เพราะผิดหวังที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้เลือกนายกิตติพันธ์ลงส.ส.ในพื้นที่พิษณุโลกใช่หรือไม่ เนื่องจากนายกิตติพันธ์เองก็มีความพยายามและความต้องการลงสมัครส.ส.ในนามพรรคเพื่อไทย นายกิตติพันธ์ตอบว่า ตนผิดหวังกับพรรคเพื่อไทย คงไม่ร่วมสังฆกรรมกับพรรคเพื่อไทยแล้ว เป็นพรรคเพื่อใคร ไม่ใช่เพราะผิดหวังที่ไม่ถูกคัดเลือกให้ลงเลือกตั้งลงส.ส.พิษณุโลก ในพรรคมีการทำแพมิลี่โหวต แต่ทำแบบไหน อยู่ ๆ มีคนมาลงมาสมัครส.ส.  คนเสื้อแดง นปช.พิษณุโลกยังไม่รู้จักเลย แล้วอย่างนี้เรียกว่าพรรคเลือกคน ประชาชนเลือกพรรคหรือไม่ ตนเคยแสดงตนให้ชาวพิษณุโลกได้รู้ว่าเราอยากลง แต่อีกคนเป็นใครไม่รู้มาลงเลย และไม่ใช่เป็นที่พิษณุโลกเขตเดียว ทั่วประเทศเป็นอย่างนี้หมด ค่าของคน อยู่ที่คนของใคร อยู่ที่คนมีเงินไหม แล้วประชาชนมันจะมีประชาธิปไตยหรือไม่ เขาเห็นว่าเพื่อไทย เห็นว่ายิ่งลักษณ์แค่นี้หรือ

0001

นายกิตติพันธ์ เผยต่อว่า ตนสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยช่วงปี 2552 คงจะไปลาออกแล้ว ผมไม่อยากเห็นประชาชนแตกแยกกัน  วันนี้ตนก็เป็นเสื้อแดง เป็นนปช. แต่เป็นเสื้อแดงเพื่อให้เป็นประชาธิปไตย ไม่ให้เป็นประชาธิปไตยเพื่อใคร คนแตกต่างทางความคิด แต่ไม่แตกแยก ไม่ใช่ว่าคนคิดต่างไม่ใช่พวก ทุกวันนี้ประชาชนคนไทยเสพสื่อเพียงข้างเดียว บางคนเสพสื่อข้างเดียว มันต้องเสพหลาย ๆ ข้าง บางคนเอียงซ้ายตลอด บางคนเอียงขวาตลอด ควรจะสลับฟังทั้งสองข้าง ทุกวันนี้บ้านเมืองแตกแยก ความเห็นต่าง แล้วประชาธิปไตย ความเห็นต่าง ไม่เคารพ ทะเลาะกัน แค่ความเห็นต่าง ฆ่ากันตาย  มันคุ้มไหมครับ

 

แสดงความคิดเห็น