วันที่ 23 มกราคม 2557 พิษณุโลกฮอตนิวส์ ได้รับภาพและข้อความทางเฟซบุ๊ค จากนายบุญสืบ เผือกอ่อน ชาวบ้านชมพู ตำบลชมภู อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.50 น. ตนได้พบเห็นจระเข้น้ำจืด ที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเพศใด ทั้งนี้สาเหตุที่ตนได้ไปพบจระเข้ในครั้งนี้ เพราะรู้สึกอยากเจอจระเข้มานานและคิดว่า น่าจะเป็นวันที่อากาศดีจึงเดินทางไปรอที่แม่น้ำ ในอุทยานแห่งชาติฯ และรอลุ้นว่า จระเข้จะออกมาหรือไม่ โดยเฝ้าสังเกตการณ์ตั้งแต่เวลา 11.00 น. แล้วก็พบจระเข้คลานออกมาอาบแดดนานประมาณ 1 ชั่วโมงแล้วคลานกลับแม่น้ำ ตนจึงรีบบันทึกวิดีโอและบันทึกภาพนิ่งไว้
“ผมเคยเจอจระเข้น้ำจืดในระยะไกลหลายครั้ง และพบในระยะใกล้ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 หลังจากไม่เจอมาหลายปี แรกๆ ที่เจอนั้นตื่นเต้นมาก ครั้งหนึ่งผมกำลังตกเบ็ดในลำน้ำชมภู และนั่งรอปลากินเหยื่อ ปรากฎว่า จระเข้ตัวดีก็มากินปลาที่ติดเบ็ดจนเบ็ดหักและเสียหาย ตอนนั้นรู้สึกว่า เสียเปรียบจระเข้มากที่เขามากินปลาของเรา แต่ก็เป็นการเริ่มท้าทายเราและชาวบ้านคนอื่นๆให้อยากรู้อยากเห็น ผมจึงลองพกกล้องออกมาสำรวจในบริเวณแม่น้ำ แล้วโชคก็เข้าข้างผมจนได้ เจอตัวเขาเป็นๆ นอนให้ดูและให้ถ่ายภาพอยู่หลายชั่วโมง” นายบุญสืบ กล่าว
นายบุญสืบ กล่าวด้วยว่า จระเข้น้ำจืดที่เจอ ประมาณความยาวของลำตัวคาดว่าเกือบ 3 เมตร และอาจหนักราว 100 กิโลกรัม ลักษณะเฉพาะของจระเข้ คือ ลำตัวสีดำเข้ม หนังคล้ายหนังควายมีรอยย่นเหี่ยว ลักษณะเท้าคล้ายตะกวด และมีนิสัยรักสงบไม่กินเนื้อทั่วไปนอกจากปลา และไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ ทั้งนี้ในส่วนของอายุไม่สามารถคาดเดาได้ คงต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาสำรวจอีกครั้ง
“แต่ที่แน่ๆจระเข้ตัวนี้ย่อมมีความสำคัญต่อระบบนิเวศ และเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ซึ่งต้องเร่งมือสำรวจต่อไป โดยจะรีบประชุมแกนนำชาวบ้านโดยเร็ว เพื่อจะใช้เป็นข้อมูลในการทำวิจัยชาวบ้าน และสามารถใช้ประกอบข้อมูลคัดค้านโครงการสร้างเขื่อนคลองชมภูที่มีแผนการก่อสร้างตามงบบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทต่อไป เพราะที่ผ่านมามีหลายหน่วยงานกล่าวหาว่าชาวบ้านเพ้อเจ้อ” นายบุญสืบ กล่าว