เมื่อเวลา10.00 น.วันที่ 15 มกราคม 2557 กลุ่มผู้ประกอบการภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดพิษณุโลก แห่งที่ 1 ประมาณ 40คนเดินทางมาที่ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องต่อนายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กรณีความเดือดร้อนจากการย้ายรถโดยสาร จากสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 ถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก ระยะทางห่างกัน 8 กิโลเมตร ทำ ให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบ ซึ่งประกอบอาชีพฝากรถจักรยานยนต์ รถยนต์ จักรยานยนต์รถโดยสารเล็ก ธุรกิจห้องพัก ร้านค้า ร้านอาหาร และสถานบันเทิง ขาดทุนไม่มีรายได้ต่างพากันเดือดร้อนเพราะไม่มีรายได้ ขอให้ทางจังหวัดเห็นใจและดำเนินการแก้ไขปัญหา
ต่อมา นายวิทูรัช ศรีนาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นายไพบูลย์ แพรสีเจริญ ขนส่งจังหวัดพิษณุโลก เดินทางมารับฟังปัญหาและรับหนังสือข้อร้องเรียน จาก นายชินกฤต เขียวขำ ตัวแทนผู้ประกอบการ ที่ต้องการเรียกร้องให้รถยนต์โดยสารวิ่งเข้ามาในสถานีขนส่งผู้โดยสาร แห่งที่ 1 และแห่งที่ 2 เพื่อให้สถานีขนส่งยังมีความคึกคักเจริญรุ่งเรืองทางด้านเศรษฐกิจและผู้ประกอบการสามารถอยู่ได้ หลังจากรับฟังปัญหานาน 1 ชั่วโมง ทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกขอเวลาติดตามเรื่องที่ร้องเรียนตามขั้นตอน และขอให้มีการพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 4 ฝ่าย คือขนส่งจังหวัดพิษณุโลก เทศบาลนครพิษณุโลก ผู้ประกอบการผู้โดยสาร และผู้ประกอบการร้านค้า เพื่อยุติปัญหาและหาทางออกร่วมกันให้ทุกฝ่ายอยู่ได้ ในวันที่ 31 มกราคมนี้อีกครั้ง
นางศศิพร จันทร์หอม เจ้าของร้านค้าและห้องพัก ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า เท่าที่มาวันนี้ก็เป็นนิมิตหมายที่ดีระดับหนึ่ง ตามแนวทางที่วางไว้หากทางภาครัฐไม่ดำเนินการใดๆ กลุ่มผู้ประกอบการจะดำเนินการตามขั้นตอนเรียกร้องถึงศาลปกครองพิษณุโลก เพราะ สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 แห่งนี้ ถูกถ่ายโอนเป็นของเทศบาลนครพิษณุโลก ส่วนแห่งที่ 2 เป็นของเอกชนดำเนิน ทำไมส่วนราชการจึงเห็นกับเอกชนมากกว่าของรัฐ แต่เราก็ไม่อยากเรียกร้องให้รถยนต์โดยสารวิ่งเข้ามาแวะอยู่เพียงที่นี้แห่งเดียว เราต้องการเห็นการแก้ไขปัญหาแบบwinwin ชนะทั้งสองฝ่าย การมาเรียกร้องเพราะพวกเราผู้ประกอบการหลาย 100 รายนับ1,000 คน ต้องเดือดร้อนสูญเสียรายได้ กระทบกับเศรษฐกิจในครอบครัว บางรายเห็นหนี้สินทำให้ปัญหาความเดือดร้อนเป็นลูกโซ่ ก็อยากวอนขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเห็นใจ เต็มใจแก้ไขปัญหา แต่ก็เป็นโอกาสดี วันที่ 31 มกราคมนี้ จะได้คุยหาทางออกการพัฒนาสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 อย่างเป็นระบบร่วมกันทั้ง 4 ฝ่ายเพื่อยุติปัญหาทั้งหมดโดยเร็ว
