วันที่ 15 มกราคม 2557 นายณัฐเดช แจ้งศิริ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานธกส.พิษณุโลก เปิดเผยถึงความคืบหน้าจ่ายเงินตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกให้กับเกษตรกรในจ.พิษณุโลกว่า นับแต่เริ่มโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต2556/2557 เป็นต้นมา ธกส.พิษณุโลก ได้รับเงินจากรัฐบาลเพื่อจ่ายให้เกษตรกรที่ร่วมโครงการรับจำนำข้าวแล้วจำนวน 1,394 ล้านบาท จากยอด ณ วันที่ 13 มกราคม 2557 อตก. อคศ. ได้ออกใบประทวนให้เกษตรกรคิดเป็นปริมาณข้าวเปลือก 494,751 ตัน มูลค่ารวม 7,688,655,473 บาท และได้ดำเนินการจ่ายถึงมือเกษตรกรผ่านสำนักงานธกส. 14 แห่งในพิษณุโลกแล้ว 1,056 ล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 1 ใน 7 ของปริมาณมูลค่าข้าวเปลือกที่ร่วมโครงการ
นายณัฐเดช เผยต่อว่า ธกส.พิษณุโลก ได้รับเงินมาเป็นล็อต ๆ เฉลี่ยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2556 เป็นต้นมารวมแล้ว 8 ครั้ง ครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2557 จำนวน 125 ล้านบาท ไม่ทราบระยะเวลาแน่นอนว่าจะจ่ายเงินให้เกษตรกรได้ครบตามจำนวนได้เมื่อไหร่ ขึ้นอยู่กับกระทรวงพาณิชย์และรัฐบาลจะจัดสรรเงินมา แต่ขอยืนยันว่า ธกส. จะจ่ายเงินให้เกษตรกรที่ร่วมโครงการตามการจัดลำดับคิวของเกษตรกรที่มาติดต่อกับธนาคารตามลำดับก่อนหลัง โดยกำหนดให้สาขาดำเนินการรับใบประทวนของเกษตรกรลูกค้าที่มาติดต่อกับธนาคารทุกราย เพื่อให้เกษตรกรมั่นใจว่าได้เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวปีการผลิต 2556/2557 อย่างแน่นอน และจะทำการคิวเย็บใบประทวนทุกใบ เพื่อไม่ให้มีการแทรกคิว กำหนดให้สาขา จัดทำลำดับการจ่ายเงินตามโครงการ ติดประกาศไว้หน้าสาขา เพื่อให้กษตรกรสามารถตรวจสอบคิวของตนเอง และสาขาจะแจ้งข้อมูลให้เป็นปัจจุบันว่า ได้ดำเนินการจ่ายเงินจำนำข้าวรายใดบ้างแล้ว
สำหรับในเขตพื้นที่ภาคเหนือมีมูลค่าตัวเงินที่เกษตรกรนำข้าวมาจำนำตามโครงการจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2556/2557 ประมาณ 63,000 บาท ภาคเหนือตอนบนประมาณ 12,000 ล้านบาท ภาคเหนือตอนล่างประมาณ 51,800 ล้านบาท โดยจังหวัดนครสวรรค์มีมูลค่าจำนำข้าวเปลือกสูงสุดที่ 10,000 ล้านบาท กำแพงเพชร 9,700 ล้านบาท พิจิตร 8,000 ล้านบาท พิษณุโลก 7,668 ล้านบาท
ที่สำนักงานธกส.สาขาอำเภอเมืองพิษณุโลก ถนนประสงค์ประสาท อ.เมืองพิษณุโลก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้มีเกษตรกรที่ร่วมโครงการมารับเงินรับจำนำข้าวเปลือกบ้างจำนวนหนึ่ง นางทองคำ สนอ่อง อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110/1 ม. 8 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า วันนี้รู้สึกดีใจมาก ที่ได้มารับเงินจำนำข้าวเปลือกจำนวน 350,000 บาท จะรีบนำไปจ่ายค่าหนี้สินที่ติดค้างเขาไว้ ยืนเงินมาลงทุนทำนารอบใหม่ ทั้งค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าเกี่ยวข้าว เสียดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อเดือน ซึ่งแพงมาก ตนทำนา 60 ไร่ เริ่มนำข้าวเข้าจำนำตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2556 ได้จำนำเต็มโควตาได้เงินมา 350,000 บาท ที่เหลืออีก 18 ตัน ขายสดให้โรงสีได้ตันละ 6,000 บาท