เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 56 ผู้สื่อข่าวรายงานช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ มีนักท่องเที่ยวพากันไปยึดพื้นที่กางเต็นท์ บนอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในความนิยมของผู้ที่ต้องการสัมผัสไอหนาว เพราะอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า มียอดเขาสูง ส่งผลให้มีการเกิดนำค้างแข็ง หรือแม่คะนิ้ง ได้เกิดขึ้นอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย โดยเฉพาะปีนี้ได้เกิดแม่คะนิ้งไปแล้วถึง 5 ครั้ง ทำให้นักท่องเที่ยวที่ทราบข่าวต่างแห่กันขึ้นภูหินร่องกล้า เพื่อรอชมแม่คะนิ้งในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ทางอุทยานภูหินร่องกล้า ได้จัดเตรียมพื้นที่รองรับนักท่องเที่ยวเอาไว้อย่างพอเพียง โดยเฉพาะจุดกางเต็นท์ ตั้งแต่บริเวณทางขึ้นใกล้กับลานหินปุ่ม ลานหินแตก บริเวณหน้าสำนักงานอุทยานฯ บริเวณลานต้นสน ซึ่งสามารถรองรับนักท่องเที่ยวมากางเต็นท์ได้อีกจำนวนมาก นอกจากนั้นยังมีนักท่องเที่ยวไปกางเต็นท์ตามจุดต่างๆอีกจำนวนไม่น้อย เพื่อสัมผัสอากาศที่หนาวเย็น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับอีกจุดที่นักท่องเที่ยวเข้าไปกางเต็นท์กันก็คือ บริเวณโครงการหลวง ซึ่งเป็นจุดชมวิว ผาพบรัก ผาสลัดรัก จุดดังกล่าวมีการปลูกไร่สตอเบอรี่ และปลูกต้นดอกกระดาษ นักท่องเที่ยวไปจับจองที่กางเต็นท์กันเป็นจำนวนมาก ปรากฏว่ามีชาวเขาเผ่าม้งได้มาเรียกเก็บเงินค่ากางเต็นท์จากนักท่องเที่ยว โดยคิดหัวละ 50 บาท ทำให้นักท่องเที่ยวที่พากันมากางเต็นท์ต้องจ่ายเงินให้ทุกคน แต่ไม่มีใบเสร็จหรือหลักฐานของทางอุทยานฯแต่อย่างใดต่อมาได้มีการสอบถามกับชายชาวเขาเผ่าม้งที่มาเก็บเรียกเงินจากนักท่องเที่ยว ว่าเป็นค่าอะไร ทางชาวเขาเผ่าม้งคนดังกล่าวบอกว่าหัวหน้าให้เก็บ จึงได้พาไปพบหัวหน้าเพื่อสอบถามรายละเอียด แต่หัวหน้าที่ชาวเขาคนดังกล่าวอ้างถึง ได้เดินหนีไม่ยอมแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบว่าเป็นค่าอะไร ทำให้นักท่องเที่ยวไม่พอใจ เพราะเป็นการเรียกเก็บที่ไม่โปร่งใสและแอบอ้างหาผลประโยชน์ให้กับตัวเอง เพราะนักท่องเที่ยวทุกคนเสียค่าผ่านด่านมาแล้วทุกคน แต่กลับมีการเรียกเก็บเงินจากผู้ที่ดูแลพื้นที่เอง ส่งผลกระทบโดยตรง ทำให้นักท่องเที่ยวผิดหวังไม่อยากกลับมาเที่ยวครั้งต่อไปอีก เป็นผลกระทบและทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวอย่างมาก