เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 56 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีครอบครัวฐานะยากจนรายหนึ่ง ได้โทรศัพท์เข้าไปหานายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ในรายการวิทยุที่สถานีวิทยุแห่งประเทศไทยพิษณุโลก เพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากครอบครัวลำบากยากจนเดือดร้อนเรื่องความเป็นอยู่อย่างมากในขณะนี้ หลังทราบข่าว ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ได้ประสานขอความเมตตาอนุเคราะห์จากพระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ พร้อมนำสิ่งของที่จำเป็นและข้าวสารอาหารแห้งนำไปช่วยเหลือนางสร้อย ปิ่นมนต์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 190 ม.3 ต.วังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก คอยดูแลลูกสาวพิการอยู่ภายในบ้านเพียงสองคน
นางสร้อย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนมีครอบครัวมีลูก 2 คน ชื่อ น.ส.ชลธิชา ปิ่นมนต์ อายุ 28 ปี แต่พิการทางสมองมาตั้งแต่เกิด ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ส่วนลูกชายชื่อนายสันติ ปิ่นมนต์ ไปรับจ้างรายวันขนกระเบื้อง ก่อนหน้าสามียังอยู่ด้วยกันครอบครัวยังไม่เดือดร้อนมากแบบนี้ แต่หลังจากตนเป็นมะเร็งเต้านมสามีได้ทอดทิ้งไปหลายปีแล้ว ตนจึงต้องเลี้ยงลูกสองคนเดพียงลำพัง
นางสร้อย กล่าวอีกว่า ก่อนที่สามีจะทิ้งครอบครัวไป ได้ไปกู้เงินกองทุนหมู่บ้านมาจำนวน 20,000 บาท โดยไม่รับผิดชอบใช้หนีแต่อย่างใด ทางกองทุนมาทวงถามตลอดเวลา จนตนเองเครียดเพราะไม่มีปัญญาหาเงินมาใช้หนี้แทน บางครั้งคิดอยากจะฆ่าตัวตาย ทุกวันนี้ตนเช่าบ้านอยู่เดือนละ 800 บาท มีอาชีพรับจ้างซักผ้ารายได้ประมาณ 1,500 บาท ต่อเดือน ส่วนลูกสาวได้เงินคนพิการ 500 บาท ทำให้ไม่พอในการใช้จ่าย และยังติดหนี้สินเงินกองทุนหมู่บ้านอีกไม่รู้จะทำอย่างไร ส่วนลูกชายก็มีรายได้เป็นสม่ำเสมอ จึงได้โทรเข้าไปในรายการวิทยุของผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เพื่อขอความช่วยเหลือดังกล่าว
สำหรับผู้ที่ต้องการช่วยเหลือครอบครัวของนางสร้อย สามารถส่งเงินช่วยเหลือในบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หมายเลขบัญชี 017278008 สาขาวังทอง ชื่อบัญชี นางสร้อย ปิ่นมนต์