เมื่อเวลา 0.9.30 น. วันที่ 27 พ.ย.56 ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองอพิษณุโลก มีกลุ่มคนพิษณุโลกต่อต้านระบอบทักษิณจำนวนหนึ่งมารวมตัวกัน เพื่อรอเวลาเคลื่อนเข้าไปในบริเวณศาลากลางพิษณุโลก ตลอดเวลามีนายวรพงษ์ แก้วพริ้ง และนายอธิป กลันทปุระ หรือ ตี๋ กล่าวปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียงโจมตีรัฐบาลตลอดเวลา โดยมีกลุ่มต่อต้านระบอบทักษิณเป่านกหวีดส่งเสียงดังตลอดเวลา
ต่อมากลุ่มต่อต้านระบบอบทักษิณ ได้เคลื่อนตัวเดินเข้าไปในบริเวณศาลากลาง ซึ่งอยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองพิษณุโลกเพียงเล็กน้อย ระหว่างนั้นได้มีรถตำรวจขนอุปกรณ์ปราบจลาจลผ่านกลุ่มดังกล่าว ปรากฏว่ากลุ่มต่อต้านระบอบทักษิณได้โห่ร้องแสดงความไม่พอใจ และเป่านกหวีดไล่ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล 1 กองร้อยไปตั้งแถวรอรับกลุ่มต่อต้านระบอบทักษิณก่อหน้าแล้ว โดยระหว่างที่กลุ่มผู้ชุมนุมเดินเข้าไปในบริเวณสนามศาลากลางจังหวัด ได้มี พ.ต.ท.ยงยุทธ แสงศรี หัวหน้าชุดปราบจลาจล ได้เข้าไปพูดคุยกับแกนนำ ว่าขอให้ปิดเสียงเครื่องขยายเสียง เพราะผู้ว่าราชการจังหวัดกำลังมีประชุมหน่วยงาน ทำให้ผู้ชุมนุมแสดงความไม่พอใจ พร้อมทั้งเปิดเสียงให้ดังและเป่านกหวีดเสียงดังลั่น จนไม่สามารถควบคุมได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกลุ่มต่อต้านระบอบทักษิณเข้ามาในสนามกีฬากลางจังหวัดพิษณุโลก ได้ไปรวมตัวกันที่จุดตั้งแถวของตำรวจปราบจลาจล โดยมีนายสุธรรม ปาเฉย อดีต สจ.และอดีตประธาน อบจ.พิษณุโลก ได้กล่าวปราศรัยการทำงานของรัฐบาล พร้อมกับกล่าวขอบคุณที่ตำรวจมาดูแลความสงบเรียบร้อย โดยกลุ่มต่อต้านมาแสดงความคิดเห็นไม่ได้มาสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร เพื่อขอยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเพียงอย่างเดียว
ต่อมานายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการพิษณุโลก นายวัฒนะ กันนะพันธุ์ รอง ผู้ว่า นายประทีป ศิลปเทศ ปลัดจังหวัดพิษณุโลก พล.ต.ต.ชฎิล พรหมไพบูลย์ ผบก.จว.พิษณุโลก พร้อมเจ้าหน้าที่หัวหน้าหน่วยราชการ ได้เดินมาจากศาลากลาง เพื่อมาพูดคุยกับกลุ่มประชาชนดังกล่าว โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีตัวแทนอ่านแถลงการณ์และมอบดอกไม้ นกหวีด ให้กับผวจ.พิษณุโลก
สำหรับแถลงการณ์ของกลุ่มผู้ชุมนุมระบุว่า ให้รัฐบาลขอโทษต่อคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่กระทำการล่วงละเมิดอำนาจศาล และยุติการกระทำดังกล่าวในการใช้อำนาจทางบริหารแทรกแซงอำนาจตุลาการ ให้รัฐบาลขอโทษประชาชนที่กระทำการต่าง ๆ ที่ผ่านมาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้นายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกหรือยุบสภา ให้ผู้เสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มาของสมาชิกวุฒิสภาขอโทษต่อประชาชน ให้สมาชิกรัฐสภาพผู้ยอมรับร่างทั้ง 312 คน ขอโทษและลาออก และขอให้ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ โปรดใช้วิจารณญาณ ในการตามคำสั่งของรัฐบาล ที่หมดความชอบธรรในในการบริหาราชการแผ่นดิน ต่อการกระทำกับประชาชนผู้บริสุทธิ์และเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง
นายระพี ผ่องบุพกิจ กล่าวกับ ผู้ชุมนุม ว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ไม่สงบ ตนไม่เคยขัดขวางการแสดงออก และไม่สนับสนุนให้ใครโต้แย้งกัน เพราะทุกคนรักชาติเหมือนกัน เราเปิดเวทีแสดงออกอย่างสงบ เรื่องการเมืองอยู่ในใจจะพูดก็พูดไม่ได้ เพราะรับราชการอยากเห็นพี่น้องรักกัน แต่จะลงเอยอย่างไรนั้นเป็นอีกเรื่อง ตนห่วงเรื่องโจรผู้ร้าย โรคภัยไข้เจ็บ ผมเป็นผู้ว่าต้องทำตามกฎหมาย ผมรักประเทศไทยรักประชาชนคนไทย การแสดงออกปราศจากอาวุธเป็นการแสดงออกถูกกฎหมาย
พล.ต.ต.ชฎิล พรหมไพบูลย์ ผบก. กล่าวว่า ข้าราชการต้องปฏิบัติตามราชการ ส่วนตำรวจต้องดูแลความสงบเรียบร้อยไม่ให้มีเลือดตกยางออก และผมจะไม่ยอมให้คนพิษณุโลกเลือดตกยางออก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่ง ผบก.จว.พิษณุโลก พูดด้วยว่า ได้ติดตามสถานการณ์ทางการเมือง มีการพูดว่า หากพูดว่าทุกอย่างมาจากภาษีประชาชน “ทั้ง ปืนที่ใช้ โล่ กระบอง เครื่องมือ มาจากภาษีเงินของกู” หากตนจะพูดย้อนกลับไปว่า ถ้ามึงจะเผาก็เป็นเงินของมึง” กลุ่มชุมนุมได้พูดว่า ชาวบ้านเผาก็ไม่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ภายหลังผบก.ภ.จว.พิษณุโลก ยอมถอนคำพูดดังกล่าวและกลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่ติดใจ
นายอธิป กลันทปุระ กล่าวว่า วันนี้กลุ่มต่อต้านระบอบทักษิณมาแสดงพลังเท่านั้น ไม่ได้มายึดหรือสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร แต่ทางตำรวจขนเจ้าหน้าที่ปราบจลาจลมากันเป็นกองร้อย เสมือนว่าพวกเราจะมาสร้างความเสียหาย ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจเป้นอย่างมาก หลังจากยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าเรียบร้อยก็จะเดินทางกลับทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกลุ่มต่อต้านระบอบทักษิณ โดยนายอธิป กลันทปุระ เป็นผู้อ่านแถลงการณ์ จากนั้นได้มอบหนังสือให้กับนายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการพิษณุโลก หลังจากนั้นคณะผู้ว่าราชการได้เดินขึ้นศาลากลาง เพื่อประชุมหน่วยงานราชการต่อ ส่วนผู้ชุมนุมได้พักผ่อนทานข้าวกัน โดยไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด