มหาวิทยาลัยนเรศวรขอพระราชทานพระราชวโรกาสทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาสาธารณสุขศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แด่ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งประเทศภูฏาน เพื่อเทิดพระเกียรติที่ทรงอุทิศพระองค์ดูแลและพัฒนาการสาธารณสุขของประเทศอย่างเข้มแข็งยิ่ง โดยคณะผู้แทนจากมหาวิทยาลัยได้เข้าทูลเกล้าฯ ถวาย เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ณ ประเทศภูฏาน
สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก กษัตริย์แห่งภูฏาน ทรงเคารพและชื่นชมในพระราชกรณียกิจและพระราชวิสัยทัศน์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง ทรงประกาศใช้หลัก“ความสุขมวลรวมประชาชาติ”เป็นดัชนีชี้วัดแทนอัตราความเติบโตทางเศรษฐกิจ ในด้านสาธารณสุขนั้น มีพระราโชบายมุ่งพัฒนาให้มีความรวดเร็ว ทันสมัย ด้วยการแพทย์สมัยใหม่ ควบคู่ไปกับพัฒนาการแพทย์ทางเลือกอันเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้าน
ด้วยพระราชวิสัยทัศน์ไกลกว้างดังกล่าว ภูฏานได้กำาหนดตัวชี้วัดสถานะสุขภาพของประชาชนและประสิทธิผลของระบบสาธารณสุขของประเทศใน 3 ประเด็นหลัก คือ ตัวชี้วัดสถานะสุขภาพ ตัวชี้วัดความรู้ทางสุขภาพ เช่น จำานวนวันที่สุขภาพดี ความพิการ ความชุกของโรคเอดส์ อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และตัวชี้วัดการเข้าถึงบริการสุขภาพ เช่น ระยะเวลาเดินทางไปสถานบริการสุขภาพที่ใกล้ที่สุด ทั้งนี้ ปัจจุบันชาวภูฏานเข้าถึงบริการสุขภาพได้สูงถึง 90 % แม้ว่าภูมิประเทศจะเป็นภูเขา ต้องเดินทางด้วยการเดินเท้าเป็นส่วนใหญ่ก็ตาม นอกจากนี้ ยังมีการให้ความรู้อย่างทั่วถึงในด้านสุขอนามัยพื้นฐาน เช่น อนามัยแม่และเด็ก การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และพิษภัยของสุรา เป็นต้น
ศาสตราจารย์ ดร.สุจินต์ จินายน อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างมหาวิทยาลัยกับกระทรวงสาธารณสุข ประเทศภูฏาน ว่า “เมื่อ พ.ศ.2542 มหาวิทยาลัยนเรศวรได้รับนิสิตภูฏาน 2 คน เข้าเรียนแพทยศาสตร์ ด้วยงบประมาณสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุขของไทย และตั้งแต่พ.ศ. 2548 จนถึงปัจจุบัน มหาวิทยาลัยได้จัดสรรทุนการศึกษาแก่นักศึกษาภูฏาน รวม 49 ราย เริ่มจากสาขาวิชาแพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ จนครอบคลุมทุกคณะวิชา และในปีการศึกษา 2556 มหาวิทยาลัยได้ถวายทุนการศึกษาเพิ่มเติมจำานวน 10 ทุน แด่สมเด็จพระราชาธิบดีฯ เพื่อโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่นักศึกษาภูฏานต่อไป”
ด้านผู้รับพระราชทุนการศึกษา Ugyen Tshering และ Tandin Dorji นิสิตคณะสาธารณสุขศาสตร์ กล่าวว่า “ภูฏานยังขาดแคลนบุคลากรสาธารณสุขที่เชี่ยวชาญ ผมจึงต้องการมาศึกษาเล่าเรียนเพื่อนำความรู้ไปช่วยพัฒนาสาธารณสุขของประเทศ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นคณะอันดับต้นๆของไทยที่มีชื่อเสียง บุคลากรมีความรู้ความสามารถสูง ผมจึงมั่นใจว่าการศึกษา ณ สถาบันนี้ จะทำให้ผมมีความรู้และทักษะที่จะนำไปช่วยพัฒนาสาธารณสุขของประเทศได้เป็นอย่างดี”
แสดงความคิดเห็น