เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 2 พ.ย. 56 ร.ต.อ.สุภาพ เงินแก้ว ร้อยเวร สภ.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งเสียหลักตกไหล่ทาง พุ่งชนกับต้นไม่ข้างทางมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนหลายราย บริเวณ ถนนพิษณุโลก–สากเหล็ก หลักกิโลเมตรที่ 14-15 หมู่ที่ 6 บ้านหนองโพธิ์ทะเล ต.หนองพระ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยบูรพา ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านละแวกดังกล่าวยืนมุงดูรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ตรวจสอบพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรร่า สีบอร์นเงิน หมายเลขทะเบียน กธ-131 พิษณุโลก จอดอยู่ใต้เพิงข้างทางสภาพพังยับเยินทั้งคัน ล้อหน้าซ้ายมือคนขับขาดหลุดออก โดยภายในตัวรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวพบร่างผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 ราย ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นายพงษ์ศิริ น้อยอามาตย์ อายุ 25 ปี ผู้ขับขี่ อยู่บ้านเลขที่ 50/5 หมู่ที่ 7 ต.เนินกุ่ม อ.วังทอง จ.พิษณุโลก นั่งร้องด้วยความเจ็บปวด อยู่บริเวณเบาะนั่งคนขับได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฉกรรจ์ฉีกขาดตามใบหน้า เจ้าหน้าที่ต้องเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลวังทอง เป็นการเร่งด่วน ส่วนที่บริเวณเบาะนั่งหลังคนขับ พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อคือ นายบรรเทา อามาตย์ อายุ 60 ปี (ปู่คนขับ) อยู่บ้านเลขที่ 50/5 หมู่ที่ 7 ต.เนินกุ่ม อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เสียชีวิตลักษณะนอนหงายอยู่บนเบาะมีแผลฉีกขาดบริเวณหัวคิ้วขวายาวไปถึงหน้าผาก บริเวณข้อเท้าซ้ายมีแผลฉีกขาดฉกรรจ์เกือบขาดออกจากกัน สภาพการแต่งกายสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นลายดอกสีฟ้า กางเกง ส่วนบริเวณท้ารถยนต์พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิงอีก 1 รายทราบชื่อคือนางสุรินทร์ อามาตย์ อายุ 45 ปี (ป้าคนขับ) อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ที่ 7 ต.เนินกุ่ม อ.วังทอง จ.พิษณุโลก นอนตะแคงเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บนพื้นดินบริเวณโคนต้นไม้ริมทาง มีแผลฉีกขาดฉกรรจ์บริเวณใบหน้า ลักษณะการแต่งกายสวมเสื้อแขนยาวสีน้ำตาง กางเกงขายาวสีดำ
จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจและสอบถาม สันนิษฐานว่า นายพงษ์ศิริ ซึ่งเดินทางด้วยรถยนต์คันดังกล่าวมากับป้า โดยจะพาปู่ไปรักษาโรคไต โดยการฟอกไตที่ รพ.รัตนเวช ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก และขณะที่กำลังจะเดินทางกลับบ้านเนื่องจากเส้นทางดังกล่าวเป็นทางตรงยาวประกอบกับขับรถมาเป็นระยะทางไกลจนเกิดหลับในขึ้นก่อนที่รถยนต์จะหลุดจากพื้นถนนไปพุ่งชนกับต้นมะขามใหญ่ที่ยืนต้นตายอยู่ข้างทางก่อนที่รถยนต์เก๋งจะหมุนไปฟาดกับเพิงข้างทางเป็นเหตุให้นายบรรเทา กระเด็นไปเสียชีวิตที่เบาะหลังทันที ส่วนนางสุรินทร์ ผู้เป็นป้ากระเด็นทะลุกระจกหลังไปนอนเสียชีวิคาที่บริเวณโคนต้นไม้
ด้านนายพงษ์ศิริ ได้เล่าว่าตนเองได้เดินทางโดยรถยนต์คันดังกล่าวกับป้าเพื่อพาปู่ไปฟอกไต ที่โรงพยาบาลรัตนเวช ในตัวเมืองพิษณุโลก ก่อนที่จะเดินทางกลับโดยมีปู่นั่งหน้าคู่มาด้วย ส่วนป้านั่งอยู่เบาะหลัง และตนเองรู้สึกง่วงมากจนหลับไปและตื่นมาก็เห็นสภาพรถยนต์เป็นอย่างนี้แล้ว