วันที่ 26 ตุลาคม 2556 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์/อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้นำฝ่ายค้าน เดินทางมาที่ อ.วัดโบสถ์จ.พิษณุโลก บริเวณหลังโกดังข้าวเน่า หรือ บริเวณถนนด้านหลังเกษตรไพศาลธัญกิจ โดยมี นพ.วรงด์ เดชกิจวิกรม ,นายนคร มาฉิมและ นายจุติไกรกฤษ์ ส.ส.พิษณุโลกให้การต้อนรับ และพาเดินดูสภาพข้าวเน่าท่ามกลางกลิ่นเหม็นและปลาตายเพราะน้ำเน่าเสีย โดยไม่มีการทำความสะอาดยังคงอยู่สภาพเดิมๆคือ เน่าเหมือนเดิมท่ามกลางชาวบ้านละแวกข้างเคียงที่เดือดร้อนยืนชูป้ายและแจงปัญหาข้าวเน่าและปัญหาโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลต่อผู้นำฝ่ายค้านโดยเฉพาะชาวนาขายข้าวไปแล้ว 2 เดือนยังไม่ได้รับเงิน
นายวิเชียร นางบวช อดีตกำนัน ต.หอกลอง อ.พรหมพิราม พิษณุโลก บอกว่าตนอายุกว่า 66 ปีปลูกข้าวมาตลอดชีวิต ถามว่า จำนำข้าวเกวียนละหมื่นห้าไหม จริงๆแล้ว ขายได้แค่ 10,200 บาทต่อตันเท่านั้นถ้าเกินโควตาก็ถูกกดราคาเหลือ 5,300 บาทต่อตัน อย่างนี้ชาวนาแย่ รัฐบาลบริหารงานผิดพลาด ยิ่งหากลดราคา 15,000 เหลือ 13,000 บาท
ชาวนาคงเหลือเงินแค่ 8,000 บาท หากยังเป็นเช่นนี้รัฐบาลเดินหน้าโครงการรับจำนำต่อไปอีก 2 ปี ประเทศชาติพัง บ้านเมืองเจ๊ง วันนี้ขายข้าวไม่ได้ตังค์ ต้องทนอยู่ ไปกู้ยืมก็ร้อยละ 3 อยากให้ถามว่ารัฐบาลช่วยเสียดอกเบี้ยให้หน่อยได้ไหม ฝากไปถามรัฐบาลว่า เมื่อไรขายข้าวได้เงินเร็วๆตอนนี้แย่แล้ว อีกทั้งยังไม่รู้กำหนดเลยว่าจะได้เงินเมื่อใดรัฐบาลนี้ โคตรโกงเลยจริงๆ บริหารงานไม่ได้เข้าท่า เจ๊งไปไม่หมดต่อไปก็เหมือนกับเมืองกรีซ แน่นอน ตายแน่นอนปี 58 ถ้าไทยเปิดประเทศเสรีวันนี้ซื้อเสื้อตัวละ 200 บาท ถ้าเป็นเสรีอาเชียนเหลือตัวละ 60 บาทธุรกิจประเทศไทยจะเดินไปทางไหน เจ๊ง !
ขณะที่ นพ วรงค์ เดชกิจวิกรม บอกเพียงว่า รอให้นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกสมัยหน้า จะเอาส่วนต่างกลับมา ตามโครงการรับประกันราคาข้าวท่ามกลางยินดีของประชาชนที่มาต้อนรับ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าขอย้ำกับพี่น้องประชาชนกรณีโครงการการรับจำนำข้าวมีการทุจิตรคอรัปชั่นกันมาก รับจำนำข้าวถือ เป็น 1 ในหลายโครงการรั่วไหลทุกขั้นตอนสอบถามเกษตรกรทราบว่า ตั้งแต่เริ่มต้นว่า ได้เท่าไร ก็พบความจริงว่าหมื่นห้าไม่ต้องพูดถึง ถามอีกว่า จะได้เงินเมื่อใด ก็ตอบไมได้ยิ่งขายข้าวนอกโควต้า ราคาก็เฉลี่ยลงมาอีก ชาวนาได้เงินน้อยมาก ที่สำคัญหลายคนร่วมโครงการจำนำแล้ว ยังไม่ได้เงินสุดท้ายชาวบ้านและชาวนาก็เดือดร้อน เงินไม่ได้ก็ต้องไปกู้เงินแถมมีดอกเบี้ยอีก ที่สำคัญตอนนี้ชาวบ้านเริ่มมองเห็นแล้วว่า โครงการนี้
รัฐบาลมารับซื้อทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วก็ไปบริหารจัดการแต่กลับขายข้าวไม่ได้ เงินก็ช้าอย่างที่เป็นข่าวอยู่เมื่อเงินในระบบไม่หมุนกลับมา ชาวบ้านก็เดือดร้อนและความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้นโครงการนี้เห็นชัดกรณี ที่ตนลงมาตรวจพื้นที่ อ.โบสถ์ว่า มีการทำลายข้าวเผาข้าวในโกดัง เป็นข้าวในโครงการจำนำ นานแล้ว แต่ในที่สุดก็มีการทำลายเพราะทุกคนเล่าตรงกันว่า มีการเผา มีเสียงระเบิดปัจจุบันมีการขุดเพื่อทำลายหลักฐาน มีข้าว มีกระสอบ มีกลิ่นน้ำก็ฟ้องชัดว่า มีการหมักข้าวเพื่อมีการทำลาย สุดท้ายก็แสดงให้เห็นว่าโครงการนี้ ล้มเหลว มีทุจริต ไม่ชอบมาพากล สุดท้ายผลกระทบปลายทางก็กระทบคือ ชาวนาและประชาชน ขายข้าวไม่ได้ราคา เงินก็ได้ช้าต้องเป็นหนี้เป็นสินมากขึ้นส่วนที่มาตรวจสอบวันนี้จะนำไปปรับได้นโยบายของพรรคหรือไม่นั้นแน่นอนว่าจะนำไปปรับใช้ โดยที่ชาวนาต้องได้เงินไม่ต่ำกว่าจำนำข้าวโดยจะไปปรับใช้ระบบส่วนต่างของโครงการประกันราคาข้าวเพราะยืนยันจากปากชาวบ้านได้เลยว่าประกันราคาไม่มีปัญหาเรื่องเงินหยุดชะงัก เงินรั่วไหลส่วนปัญหาทุจริตข้าว เกิดความสูญเสียมากมายส่วนความสูญเสียของการรับจำนำข้าวประเทศชาติเสียหายเท่าใดนั้น
นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่า ตัวเลขที่เราใช้จากหอการค้า คือ 235,000 ล้านบาทนี่เป็นแค่ประมาณการ เฉพาะแค่การจัดซื้อจัดจ้าง จริงๆแล้วถ้ามีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวที่พูดถึงเงินตัวเลขยังไม่นำกลับเข้าไปสู่ระบบงบประมาณ
จะเห็นมีความเสียหายชัดเจนมากกว่านี้แต่วันนี้เราจะเห็นมาตรการจำนวนมากเพื่อเอาเงินมาหมุนเวียนกลับเข้าไปเพื่อมิให้รับรู้ชัดๆว่า รัฐบาลขาดทุนเท่าใดอีกทั้งจะทำอย่างไรกับสต็อกข้าวที่มีอยู่เท่าใด ภาระหนักพี่น้องประชาชนยังพูดเองว่า ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป ประเทศชาติเจ๊งอยู่ไม่ได้ เขาก็เป็นห่วงลูกหลานจะอยู่ได้อย่างไร ส่วนจะนำเรื่องนี้จะนำไปอภิปรายไม่ไว้วางในในสมัยหน้าหรือไม่นั้นฟจะต้องดูก่อนเพราะมีหลายเรื่อง
แสดงความคิดเห็น
วันที่ 26 ตุลาคม 2556 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์/อดี
