แม่เฒ่าทรนงตาบอดดูแลพี่สาวพิการและลูกพิการอีก 2

zz (2)

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 24 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านชุมชุนอรัญญิก หมู่ 5 ต.อรัญญิก อ.เมือง จ.พิษณุโลก ว่ามีแม่เฒ่าวัย 62 พิการทางสายตาต้องดูแล พี่สาวที่ตาบอดและลุกที่มีความพิการทางรางกายอีก 2 คน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านพักไม่มีเลขที่ หมู่ 5 ต.อรัญญิก อ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวยกพื้นสูงข้างฝาบ้านตีแปะด้วยสังกะสีเก่าผุพัง หลังคาเป็นรูโหล่ไม่คุ้มแดดคุ่มฝน ภายในบ้านพักมีนางจำนง วงศ์สาหร่าย อายุ 62 ปี มีที่อยู่ตามบัตรประชาชน 106/2 ถนนศรีถมรรัตน์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งสายตาบอดสนิทเนื่องจากป่วยเป็นโรคต้อกระจก มานานกว่า 15 ปี กำลังสาระวนดูแลบุตรสาวคือนางวันเพ็ญ เอื้อเฟื้อสุข อายุ 43 ปี บุตรสาว ที่เป็นอัมพฤกษ์ที่ท่อนล่างไม่สามารช่วยตนเองได้ และนายวานิต เอื้อเฟื้อสุข อายุ 30 ปี บุตรชายคนเล็ก ที่พิการทางสายตาและพิการทางสมองอีกด้วย นอกจากนี้ยังต้องดูและนางจำเนียน วงค์สาหร่าย อายุ 76 ปี พี่สาวที่พิการทางสายตาอีก 1 คน

zz (5)

นางจำนงค์ เล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนตนเองก็มีสายตาปกตำงานรับจ้างได้เหมือนคนทั่วไป แต่เมื่อ 15ปีก่อน ตนเองเริ่มป่วยด้วยโรคต้อกระจก สายตาเริ่มบอดสนิท แบะต้องค่อยดูแลนายวินิต บุตรชายคนเล็กที่ป่วยพิการทางสายตาและพิการทางสมองมานานกว่า 20 ปี ทุกวันนี้ตนเองก็ไม่สามารถออกไปทำงานได้เพราะมองไม่เห็นก็๖องอาศัยเพื่อนบ้านช่วยเหลืดดูแลเรื่องอาหารบางครั้งก็๖องไปขอข้าววัดมากินเพื่อประทังชีวิตไปวันวัน แต่เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด นางวันเพ็ญ ลูกสาวคนโต ที่ร่างกายปกติทำงานพอที่จะส่งเสียเลี้ยงดูตนเองได้บ้าง ต้องมาล้มป่วยเนื่องจากเมื่อสีเดือนที่ป่วยลูกสาวได้ปวดฟันและได้ตัดสินใจถอนฟันด้วยตนเองทำให้รางฟันไปกดเส้นประสาททำให้ร่าวงทานท่อนล่างเปิดเป็นอัมพาตเดินไม่ได้และเวลาขับถ่ายก็ไม่รู้สึกตัวตนเองต้องคอยเช็ดอุจจาระปัสสาวะให้กับลุกสาวด้วยอีกคน

zz (3)

นางจำนง เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังต่อว่านอกจากนี้ตนเองต้องคอยดูแลนางจำเนียน พี่สาว ที่ตาบอดเหมือนกันอยู่อาศัยอยู่บ้านพักติดกัน ซึ่งอาศัยอยู่คนเดียวเนื่องจากบุตรสาวที่คอยดูแลเสียชีวิตไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ทุกเช้าตนเองต้องออกจากบ้านพักเดินไปปากซอยเพื่อขออาหารจากพระภิกษุที่วัดใกล้บ้าน ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านพักมากนักเพื่อไปขอข้าวและอาหารมาเพื่อประทั่งคนในครอบครัวทั้ง 4 ชีวิตให้อยู่รอด เพียงเงินที่ได้จากเบี้ยสูงอายุ 500 บาทและเงินเบี้ยพิการของบุตรสาอีก 500 บาท ไม่เพียงพอที่จะใช้จ่ายดูแลคนในครอบครัวอย่างแน่นอน บางครั้งตนเองก็ต้องเดินไปขอเศษของเก่าจากเพื่อนบ้าน มาเก็บสะสมไว้และก็จะรวบรวมนำไปขายนำเงินมาแต่ก็ไม่เพียงพอจะใช้จ่ายในครอบครัว

 

ต่อมาพระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้นำข้าวสารอาหารแห้ง และเงินจำนวนหนึ่งเข้าไปช่วยเหลือครอบครัวของนางจำนง เพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น สำหรับผู้มีจิตกุศลอยากช่วยเหลือครอบครัวรันทดนี้สามารถช่วยเหลือครอบครัวนางจำนงค์ ได้ที่เลขบัญชี 027-2-90682-5 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ชื่อบัญชี นางจำนงค์ วงศ์สาหร่าย

 

///

แสดงความคิดเห็น