มหาวิทยาลัยนเรศวรขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาสาธารณสุขศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แด่ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์ ทั้งด้วยพระวิริยะอุตสาหกรรมในการสร้างคุณูปการ แก่ประชาชนประเทศภูฏาน และเพื่อเป็นเกียรติ อันสูงสุดแก่มหาวิทยาลัยนเรศวรสืบไป
ศาสตราจารย์ ดร.สุจินต์ จินายน อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวรกล่าวว่า “เมื่อปี พ.ศ๒๕๔๒ มหาวิทยาลัยนเรศวรได้รับนิสิตชาวภูฏาน จำนวน ๒ ราย เข้าศึกษา ณ คณะแพทยศาสตร์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณโดยกระทรวงสาธารณสุขแห่งประเทศไทย และนับจากนั้นเป็นต้นมา ความสัมพันธ์ระหว่างมหาวิทยาลัยนเรศวรกับกระทรวงสาธารณสุขแห่งประเทศภูฏานก็กระชับ แน่นแฟ้นขึ้นเป็นลำดับ และนับตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๘ ทางมหาวิทยาลัยได้จัดสรรทุนการศึกษา แก่นักศึกษาชาวภูฏาน ไปทั้งสิ้น ๔๕ ราย เริ่มจากสาขาวิชาแพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ จนกระทั่งครอบคลุมทุกคณะวิชาในมหาวิทยาลัย จวบจนปัจจุบัน มีนักศึกษาชาวภูฏานสำเร็จการศึกษาและกลับไปช่วยพัฒนาประเทศแล้วทั้งสิ้น จำนวน ๗ ราย ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างมหาวิทยาลัยนเรศวรกับประเทศภูฏานอันมีมาอย่างยาวนาน มหาวิทยาลัย จึงประสงค์ถวายทุนการศึกษาเพิ่มเติมจำนวน ๑๐ ทุน แก่สมเด็จพระราชาธิบดีฯ ดังนั้นนักศึกษาชาวภูฏานที่ศึกษา ณ มหาวิทยาลัยนเรศวร ต่างสำนึกถึงพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระราชาธิบดีฯ และพร้อมอุทิศตนเพื่อมาตุภูมิของตนภายหลังสำเร็จการศึกษา อันยังประโยชน์อย่างยั่งยืนแก่ประเทศภูฏานและประเทศไทยต่อไป”
ด้วยสำนึกในพระราชกรณียกิจที่สมเด็จพระราชาธิบดีได้อุทิศพระองค์อย่างไม่รู้จัก เหน็ดเหนื่อยแก่ประชาชนชาวภูฏาน และสานต่อความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างมหาวิทยาลัยนเรศวรและประเทศภูฏาน มหาวิทยาลัยจึงน้อมเกล้าฯ ถวายปริญญาสาธารณสุขศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แด่สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ในวันที่ ๑๒ พฤศจิกายนนี้ ณ ประเทศภูฏาน
การทูลเกล้าถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แก่สมเด็จพระราชาธิบดีฯ ครั้งนี้ เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์ถึงการอุทิศพระองค์เพื่อสวัสดิการและความสุขของพสกนิกรชาวภูฏานเท่านั้นแต่ยังนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นและแก่มหาวิทยาลัยนเรศวร