เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 1 ต.ค. 56 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีชาวบ้านม.12 บ้านใหม่อนามัย ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก รวมตัวกันขับไล่พระออกจากวัด จึงไดเดินทางไปตรวจสอบ ที่วัดใหม่อนามัย(ธ) พบชาวบ้านประมาณ 200 คน ยืนรวมตัวกันกันถือป้ายประท้วงขับไล่พระให้ออกจากวัด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.นครไทย นำกำลังมาดูแลอำนวยความสะดวกจำนวนหนึ่ง
จากการสอบถามทราบว่าชาวบ้านไม่พอใจ เนื่องจากพระอาจารย์คำบ่อ กนฺตวีโร อดีตเจ้าอาวาส และอดีตเจ้าคณะตำบลบ่อโพธิ์ จำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านใหม่อนามัย มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในการครองสมณเพศ โดยอ้างว่าเป็นผู้ช่วยเหลือพระอีก 2 รูปที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายชาวบ้าน จนทำให้พระที่ก่อเหตุหลบหนีไป จึงได้รวมตัวกันประท้วง เพื่อต้องการให้พระอาจารย์คำบ่อ กนฺตวีโร ออกไปจากวัดบ้านใหม่อนามัยในวันนี้
ต่อมาเจ้าอธิการปิยวัช พนฺธมุตฺโต เจ้าคณะตำบลบ่อโพธิ์ เจ้าอาวาสวัดเจริญราษฎร์ศรัทธา(ธ) ได้เดินทางมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว พร้อมกับ กล่าวว่า อาตมาเป็นพระผู้ปกครองต้องลงมาดูความเรียบร้อยทั้งหมดด้วยตัวเอง หลังเข้ามาสอบถามเรื่องราวทั้งหมดจากชาวบ้าน ทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว หลังจากนั้นได้เข้าไปพูดคุยกับพระอาจารย์คำบ่อ กนฺตวีโร จนเป็นที่เข้าใจกัน ซึ่งทางพระอาจารย์คำบ่อ กนฺตวีโร ยอมรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และตกลงยอมจะออกจากวัดใหม่อนามัย(ธ) ในวันที่ 2 ต.ค.พรุ่งนี้ โดยในวันนี้ขอเก็บข้าวของส่วนตัวเรียบร้อยก่อน นอกจากนั้นอาตมาต้องทำการตรวจสอบทรัพย์สินของวัดทั้งหมด และเงินบริจาค พร้อมจะแต่งตั้งพระรูปอื่นมาดูแลวัดแห่งนี้ต่อไป
จากการสอบถาม น.ส.อารีญา จานตาดี อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126 ม.12 ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ในวันที่ 26 ก.ย. ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยเพื่อนชื่อ น.ส.ทาริกา บุญธรรม อายุ 17 อยู่บ้านเลขที่ 190 ม.1 ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ได้พากันไปเรียนพิเศษที่ตัว อ.นครไทย โดย น.ส.ทาริกา เป็นขับรถจักรยานยนต์ ส่วนตนเป็นคนนั่งซ้อนท้าย หลังจากเลิกเรียนพิเศษเวลา 19.00 น. และพากันกลับบ้าน ระหว่างมาถึงซอยจะเข้าบ้าน ซึ่งห่างจากวัดป่านาตาดีประมาณ 300 เมตร ปรากฏว่าพบพระ 2 รูป ซึ่งเป็นพระในวัดป่านาตาดีมีลักษณะเมาเหล้ายืนอยู่ข้างทาง พร้อมใช้ไฟฉายโบกให้รถจักยานยนต์จอด แต่ตนกับเพื่อนเห็นท่าทางไม่ดี จึงไม่ยอมจอดพร้อมกับเร่งเครื่องเพื่อหลบหนี ทันใดนั้นพระรูปหนึ่งได้กระเตะตนกับเพื่อน โดนที่ไหล่ของ น.ส.ทาริกา และตนถูกเตะที่ใบหน้า โชคดีที่รถจักรยานยนต์ไม่ล้ม หลังจากนั้นพากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีมาได้ จึงเข้าไปขอความช่วยเหลือที่น้าชาย โดยมีพระ 2 รูปวิ่งตามไปจนถึงบ้าน
นายหนู จานตาดี อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97 ม.12 ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนอยู่ในบ้าน มีหลานสาวพร้อมเพื่อนขี่รถเข้ามาขอความช่วยเหลือในบ้าน จึงได้เปิดประตูออกมา พร้อมถือปืนลูกซอง 5 นัดออกมาด้วย พบพระวัดป่านาตาดี จำนวน 2 รูป วิ่งตามเข้ามาในบ้าน จึงมีการสอบถามสาเหตุ ทางพระทั้ง 2 รูปอยู่ในอาการมึนเมา และบอกให้ตนเอาปืนไปเก็บไว้ เพราะไม่ได้มาหาเรื่องมาคุยกันดีๆ หลังจากนั้นตนได้เอาปืนไปเก็บไว้ในห้อง หลังกลับออกมาปรากฏว่าพระสองรูปช่วยกันจับตนเอาไว้ โดยรูปหนึ่งล็อกคอ และอีกรูปหนึ่งทำร้ายร่างกาย ระหว่างนั้นภรรยาของตนได้โทรศัพท์หาผู้ใหญ่บ้าน พร้อมนำลูกบ้านมาช่วยเหลือและจับกุมตัวพระทั้งสองรูปมัดไว้ ก่อนจะโทรให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวไปดำเนินคดี โดยมีการแจ้งข้อหาทำร่างกาย บุกรุกเคหสถาน ต่อมาปรากฏว่าพระทั้ง 2 รูปได้ถูกปล่อยตัวออกมา และหลบหนีไปในที่สุด
นายสุพิศ คำดี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ตนพร้อมชาวบ้านต่างไม่พอใจที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยตัวผู้ต้องหาไป ประกอบกับทางพระอาจารย์คำบ่อ กนฺตวีโร ได้ให้การช่วยเหลือพระทั้ง 2 รูปออกมา จนทำให้หลบหนีไปได้ จึงได้รวมตัวกันประท้วงขับไล่พระอาจารย์คำบ่อ กนฺตวีโร ที่ช่วยเหลือพระที่กระทำผิด ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำไมต้องปล่อยให้พระทั้ง 2 รูปออกมาได้ ทั้งที่กระทำผิด และทางผู้ใหญ่บ้านจับตัวส่งให้ โดยจะแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายชาวบ้านและบุกรุกเคหสถาน แต่กลับแจ้งข้อหาเมาสุราอาละวาดปรับเท่านั้น
ด้าน พ.ต.ต.สุเทพ นาควิโรจน์ สวป. กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เข้าข้างผู้ต้องหา หรือปล่อยตัวผู้ต้องหา โดยวันเกิดเหตุ ทางสายตรวจได้ไปรับผู้ต้องหา ซึ่งเป้นพระเมาสุราอาละวาด โดยทางผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านช่วยกันจับตัวเอาไว้ นำตัวมาที่สถานีตำรวจ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาเมาสุราและปรับปล่อยตัวไป ส่วนข้อหาทำร้ายร่างกายกับบุกรุกเคหสถานนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า จึงต้องข้อหมายจับจากศาลก่อน จึงจะสามารถจับกุมตัวได้ อีกอย่างช่วงเกิดเหตุร้อยเวรเจ้าของคดีไม่อยู่ จึงต้องให้กลับมาแจ้งความกับร้อยเวรเจ้าของคดี ทำให้มีการเข้าใจผิดว่าตำรวจปล่อยตัวไป