เวลา 12.00 น.วันที่ 25 กันยายน 2556 ที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดจากอำเภอชาติตระการ อำเภอนครไทย และอำเภอวังทอง จำนวนประมาณ 500 คน ได้เดินทางโดยรถยนต์มารวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือข้อเรียกร้อง ให้รัฐบาลช่วยแก้ไขปัญหาราคาข้าวโพดตกต่ำ เนื่องจากขณะนี้ ราคาที่จำหน่ายให้กับพ่อค้าถือว่าต่ำมาก เฉลี่ยกิโลกรัมละ 3-4 บาท เป็นราคาที่ประสบปัญหาขาดทุนขายได้ ไม่คุ้มกับค่าแรงงานและต้นทุนการผลิต
การเดินทางมาร้องเรียนครั้งนี้ มีตัวแทนจากหลายอำเภอได้นัดหมายมาเจอกันที่หน้าศาลากลางจังหวัด นายบัวรินทร์ สุขสถาน ผู้ประสานงานกลุ่มเกษตรกร กล่าวว่า ได้รวมตัวกันเรียกร้องให้รัฐบาลมาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาราคาข้าวโพด เพราะขณะนี้ ขายข้าวโพด 1 กิโลกรัม ยังซื้อไข่ไก่ไม่ได้เลย จึงรวมกันเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยประกันหรือจำนำ ราคาข้าวโพดฝักสด ในราคากิโลกรัมละ 6 บาท ข้าวโพดความชื้น 14.5 % ในราคากิโลกรัมละ 12 บาท และข้าวโพดความชื้น 30 % ในราคา 5-6 บาท
นายนคร มาฉิม ส.ส.ประชาธิปัตย์ จ.พิษณุโลก ได้มาร่วมกล่าวกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่า สาเหตุของราคาข้าวโพดตกต่ำอย่างมากเพราะการบริหารงานของภาครัฐเอื้อกับนายทุนรายใหญ่ ได้แก่การมีมติครม.ให้สามารถนำเข้าข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้าน พม่า ลาว กัมพูชา ได้อย่างเสรี และไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งส่งผลต่อราคาข้าวโพดในประเทศที่ต้องตกต่ำโดยตรง และไม่ส่งเสริมปัจจัยการผลิตที่เพียงพอ โดยเฉพาะเมล็ดพันธุ์ ที่ผูกขาดกับผู้ผลิตรายใหญ่ไม่กี่เจ้า ในแต่ละปี มีการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดออกจำหน่ายมูลค่าร่วม 20,000 ล้านบาท จำหน่ายให้เกษตรกรในราคากิโลกรัมละ 150 บาท แต่เมื่อรับซื้อข้าวโพด ณ ปัจจุบันได้เพียงกก.ละ 3 บาท
ต่อมา นายปรีชา เรืองจันทร์ ผวจ.พิษณุโลก ได้เดินทางมารับหนังสือข้อเรียกร้องจากกลุ่มเกษตร โดยรับปากว่า จะรีบนำเสนอเรื่องส่งข้อเรียกร้องของเกษตรกรไปยังรัฐบาลโดยทันที ทำให้กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดต่างพอใจในการรับข้อเรียกร้องครั้งนี้