จากกรณีที่มีชาวบ้านไปพบกองข้าวสารกว่าหมื่นกระสอบถูกนำมาเผาทำลายทิ้งที่บริเวณริมคลองส่งน้ำ ม.7 ต.วัดโบสถ์ จนกลายเป็นประเด็นร้อนที่สังคมจับตากันว่าข้าวสารกว่าหมื่นกระสอบกองมหึมา ถูกนำมาจากที่ใดถึงมาถูกเผาทำลายทิ้งในพื้นที่ จนชาวบ้านมาพบและกองข้าวเริ่มส่งกลิ่นเหม็นฟุ้งไปทั่วบริเวณ สร้างความเสียหายให้กับนาข้าวที่อยู่ติดกัน
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 กันยายน 2556 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปทำการตรวจสอบจุดที่พบข้าวสารจำนวนมากมาถูกกองทิ้งไว้อีกครั้ง กลับพบว่ากองข้าวทั้งหมดได้ถูกขนย้ายออกจากพื้นที่ไปจนหมดไม่เหลืออะไรเลย โดยสอบถามจากชาวบ้านก็ทราบว่าหลังจากเป็นข่าวไปแล้วนั้น ก็ได้มีรถยนต์บรรทุกสิบล้อเข้ามาในพื้นที่ พร้อมรถแบ็คโคขนาดใหญ่ ทำการตักตักกองข้าวเน่า ขนย้ายออกไปจากพื้นที่ โดยนำไปทิ้งไปอีกจุดห่างจากจุดนั้นไปประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ของ บจก.เกษตรไพศาลธัญกิจ โดยในจุดนั้นเป็นป่าละเมาะไม่มีชุมชนอาศัยอยู่
และทีมข่าวได้พยายามโทรติดต่อไปยัง อตก.จังหวัดพิษณุโลก ก็ได้รับคำตอบจากนายศิริชัย แท่นหิน หัวหน้าคลังสินค้าองค์การตลาดเพื่อเกษตรประจำจังหวัดพิษณุโลก เผยว่า ทางอตก.ได้ขายข้าวให้กับผู้ซื้อไปหมดเรียบร้อยแล้วจำนวน 13,000 ตัน ตั้งแต่ปี 51 และยังมีข้าวที่ฝากอยู่โกดัง บจก.เกษตรไพศาลธัญกิจ แต่กลับพบว่า มีข้าวเปียกน้ำอยู่จำนวน 1300 ตัน ทำให้ค้างอยู่ในโกดัง เพื่อรอเคลมประกันกับบริษัทประกัน โดยระหว่างนั้นข้าวที่เปียกน้ำและฝากไว้ในโกดังได้เกิดการหมักบ่มจนเกิดเป็นประกายไฟ ลุกไหม้เสียหาย ทางเจ้าของโกดังจึงหวั่นเกรงว่าจะเกิดไฟไหม้ข้าว จึงใช้รถตักข้าว และขนย้ายข้าวทั้งหมดไปไว้ในพื้นที่ที่ทางบริษัทซื้อไว้ด้านหลังโกดัง ซึ่ง บังเอิญใกล้กับแหล่งน้ำและนาข้าวของชาวบ้าน และเมื่อกองข้าวถูกฝนจึงทำให้ข้าวเน่าเพิ่มขึ้นและส่งกลิ่นเหม็น ประกอบนำฝนที่ชะลงมาไหลลงนาข้าวของชาวบ้าน จึงทำให้เกิดเรื่องขึ้น ทั้งๆที่ไม่ควรเป็นเรื่อง ข้าวที่ปรากฏอยู่ มีมูลค่าอยู่ แต่จะต้องรอการเคลมจากบริษัทประกัน ซึ่งทางบริษัทประกันก็ยังไม่ได้ติดต่อมาว่าจะเข้าตรวจสอบเมื่อไหร่ จนทำให้ภาพที่ปรากฎว่า มีการนำข้าวมาเผานั้น ยืนยันว่า ข้าวมันระอุตั้งแต่อยู่ในโกดังแล้ว จนกระทั่งรถแบค์โฮ ได้ดันข้าวออกมา นอกโกดังเพราะเกรงไฟจะประทุขึ้นอีก ซึ่งก่อนดำเนินการเคลื่อนย้ายมาด้านหลังโกดัง เลขที่ 77 หมู่ 7 ถนนพิษณุโลก-เด่นชัย อ.วัดโบสถ์ ก็มีเจ้าหน้าที่ของรัฐและตำรวจ เป็นพยานยืนยันได้
ถึงวันนี้ ตนได้รับคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดโดยระบุ จะต้องเคลียร์ข้าวจำนวน 1,300 ตันออกให้หมด เพื่อไม่ให้ชาวบ้านและชาวนาเดือดร้อน จากน้ำเสีย และปัญหาส่งกลิ่นเหม็นเน่าส่วนปัญหาที่เกิดขั้น ผู้อำนวยการคลังสินค้าองค์การตลาดเพื่อเกษตร จาก(ส่วนกลาง) ก็จะลงมาในพื้นที่เพื่อทำการชี้แจง หรือมิฉะนั้นจะเป็นผู้แถลงกับสื่อในรายละเอียดต่อไป
ส่วนข่าวที่ระบุไปว่า มีการเวียนเทียนข้าวของโครงการรับจำนำข้าวนั้น ไม่มี เนื่องจากมีคนเฝ้าดูแลหรือเซอร์เวเยอร์ตรวจสอบภายในโกดังสินค้าอยู่ตลอดเวลา ก่อนที่รัฐบาลขายข้าวให้เอกชน.