เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 56 พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ ศปป.4 (สวนรื่นฤดี) พ.ต.ท.ชาญชัย หาญแก้ว นายสมชาย ฉิมแย้ม หน.สำนักงานป่าสงวนแห่งชาติป่าลุ่มน้ำวังทองฝั่งซ้าย พ.ต.ท.ปรีช กิ่มเกลี้ยง ผบ.ร้อย กก.ตชด.313 นายธนัช เนมีย์ ผอ.สน.จทป.ที่ 4 สาขาพิษณุโลก นายสักรินทร์ ปัญญาใจ หน.สายตรวจปราบปรามกระทำผิดเกี่ยวกับป่าไม้ภาคเหนือตอนล่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลพิษณุโลก ได้สนธิกำลังรวม 120 นาย เพื่อเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่สวนยางพาราบุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าลุ่มน้ำวังทองฝั่งซ้าย จำนวนกว่า 2,000 ไร่ อยู่ในพื้นที่ ม.13 บ้านตอเรือ ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
หลังจากเจ้าหน้าที่นำกำลังบุกเข้าไปตรวจสอบ ปรากฏว่าพบเพียงลูกจ้างจำนวน 2 คน ชื่อนายวัยชัย แซ่ท้าว อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.8 ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ และ นายอรุณรัชช์ แซ่ลี อายุ24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.8 ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ส่วนผู้ดูแลได้ออกนอกพื้นที่ไปแล้ว เนื่องจากมีคนมาแจ้งข่าวให้ทราบ ก่อนเจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบ จึงมีการสั่งให้คนงานทั้งหมดหลบไปก่อน ส่วนเจ้าของสวนยางพารา ทางเจ้าหน้าที่ได้ขอเบอร์โทรศัพท์พยายามติดต่อกับผู้ที่เกี่ยวข้องและเจ้าของสวนยาง กระทั่งมีนายทวี แสงสุก อดีตรองนายก อบต.วังนกแอ่น เข้ามาพบเจ้าหน้าที่ โดยให้ข้อมูลว่า ตนมาช่วยดูแลพื้นที่สวนยางดังกล่าว เป็นคนจัดหาพันธุ์กล้ายางมาขายให้กับ หจก.วีรนันท์ และช่วยจัดการในงานบางเรื่องที่สามารถช่วยเหลือได้ โดยไม่มีค่าตอบแทนแต่อย่างใด
ในเวลาต่อมานายปรีชา จันทร์ครุธ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 ม.8 ต.ท่าฉนวน อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ เปิดเผยว่า ตนเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเจ้าของสวนยางพารา ชื่อนายวีรนันท์ จันทร์ครุธ เป็นเจ้าของ หจก.ตั้งอยู่เลขที่ 38/1 ม.8 ต.ท่าฉนวน อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท และตนเป็นผู้จัดการดูสวนยางพาราแห่งนี้ โดยมีหน้าที่หลักคอยดูแลเกี่ยวกับคนงานกว่า 40 คน ในเรื่องการจ่ายเงินค่าจ้าง การเก็บยางและการขายน้ำยาง ซึ่งทาง หจก.วีรนันท์จะส่งคนมารับน้ำยางพารา แต่ละครั้งประมาณ 20-30 ตัน
ทางนายสมชาย ฉิมแย้ม หน.สำนักงานป่าสงวนแห่งชาติป่าลุ่มน้ำวังทองฝั่งซ้าย พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้ให้นายปรีชา จันทร์ครุธ ผู้จัดการสวนยาง หจก.วีรนันท์ เป็นผู้นำชี้พื้นที่เขตสวนยางพารา โดยมีการใช้เครื่องจับพิกัด GPS พร้อมใช้แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศประกอบในการตรวจสอบ พบว่าอยู่แนวเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าลุ่มน้ำวังทองฝั่งซ้ายทั้งหมด และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญในพื้นที่ดังกล่าว
ต่อมามีนายวรนาถ วงษ์ไทย อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 232 ม.5 ต.ท่าน้ำอ้อย อ.พยุหคีรี จ.นครสวรรค์ ได้เดินทางมาจาก จ.นครสวรรค์พร้อมเพื่อนชาย 1 คน พร้อมได้นำสำเนาเอกสารที่ดินมาแสดง เนื่องจากได้รับมอบหมายจากนายวีรนันท์ เจ้าของสวนยาง ให้นำมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ จากการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ที่ดิน จำนวน 17 ใบ ซึ่งทั้งหมดเป็น ภ.บ.ท.5 รวมที่ดิน 442 ไร่ แต่มีใบ ภ.บ.ท.5 จากพื้นที่อื่น คือ หมู่ 10 จำนวน 3 แปลงๆละ 50 ไร่ หมู่ 7 จำนวน 2 แปลงๆละ 50 ไร่ แต่มีการแก้ไขในเอกสารเป็น 60 กับ 90 ไร่ รวมเป็น 150 ไร่ ส่วนที่เหลือเป็นใบ ภ.บ.ท.5 อยู่ในเขตพื้นที่ ม.13 ทั้งหมด แต่เป็นชื่อของคนอื่นไม่ใช่ชื่อของ หจก.วีรนันท์ แต่อย่างใด
พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ ศปป.4 (สวนรื่นฤดี) กล่าวว่า ตนได้รับคำสั่งจาก พล.ต.คณิต อุทิศสาร ผอ.ศปป.4 (สวนรื่นฤดี) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าทำการตรวจสอบพื้นที่รุกป่าสงวนแห่งชาติในพื้นที่ป่าลุ่มน้ำวังทองฝั่งขวา หลังจากได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการบุกรุกป่าสงวนปลูกยางพาราหลายพันไร่ หลังตรวจสอบพบว่ามีการบุกรุกจริงตามรายงาน ระหว่างที่ตนปฏิบัติหน้าที่ ปรากฏว่า มีคนโทรศัพท์เข้ามาพูดคุยกับตน พร้อมกับบอกว่ามีอาชีพค้าขายต้องการขอเคลียร์ โดยจะให้เงินสด จำนวน 300,000 บาท แต่ถูกตนปฏิเสธไป
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวผู้ที่เกี่ยวข้องไปทำการสอบสวนที่ สภ.วังทอง จ.พิษณุโลก เพื่อบันทึกปากคำรายละเอียดทั้งหมด เพื่อออกหมายเรียกนายวีรนันท์ เจ้าของสวนยางพารา หจก.วีรนันท์ที่ได้บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติมารับทราบข้อกล่าวหาตามกฎหมายต่อไป