วันที่ 3 กันยายน 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังปรับราคาแก๊สหุงต้มได้เริ่มปรับราคาขึ้น แม้ว่าหลายแห่งจะยืนยันว่า ยังจำหน่ายในราคาเดิมไม่ได้ขึ้นราคาแต่อย่างใด แต่ปรากฏว่า ร้านค้าที่จำหน่ายในโรงอาหารของโรงเรียนหลายแห่ง ซึ่งเป็นร้านค้าที่ไม่สามารถขึ้นราคาจำหน่ายอาหารได้ อีกทั้งต้องขายให้นักเรียนในราคาถูก เมนูละ 15-20 บาท ผู้ประกอบการยอมรับว่าได้รับผลกระทบอย่างหนักจากต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นจำเป็นต้องตักอาหารในปริมาณที่ลดลง เพื่อให้เหลือกำไร
ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาพณิชยการพิษณุโลก นักศึกษาหลายคนที่ต้องซื้ออาหารที่โรงอาหารของวิทยาลัยรับประทาน กล่าวว่า ขณะนี้ราคาอาหารเริ่มมีการปรับราคาขายแพงขึ้น ประมาณเมนูละ 5 บาท จากที่เคยซื้อในราคา 20 บาท ปัจจุบันจะต้องซื้อในราคา 25 บาท นางสาวจุฑามาศ เกิดพิณ นักศึกษาชั้น ปวช. 3 ของวิทยาลัยดังกล่าว เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการปรับราคาแก๊ส ทางร้านค้าของโรงอาหารก็มีการปรับราคาขายแพงขึ้น บางร้านให้ปริมาณอาหารลดลง ทำให้ตนเองได้รับผลกระทบ มีภาระค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารการกินเพิ่มขึ้น
ขณะที่ นางศราวรรณ ปิยะเวชการ เจ้าของร้านรสดี ที่จำหน่ายก๋วยเตี๋ยว ในวิทยาลัยอาชีวศึกษาพณิชยการพิษณุโลก เปิดเผยว่า ขณะนี้ต้นทุนในการทำก๋วยเตี๋ยวแพงขึ้น ทั้งค่าแก๊ส ค่าวัตถุดิบอื่น ๆ แก๊สหุงต้มที่ร้านของตน เคยซื้อในราคาถังละ 297 บาท ปัจจุบันต้องซื้อในราคาถังละ 315 บาท วัตถุดิบอื่น ๆ อย่างเนื้อหมู เนื้อไก่ ก็แพงขึ้นด้วยเช่นกัน โดยนางศราวรรณ กล่าวยอมรับว่า จำเป็นต้องตักอาหารลดปริมาณลงกว่าปกติ เพื่อให้พอมีกำไรบ้าง
เช่นเดียวกับที่ร้านป้าน้อง ที่จำหน่ายก๋วยเตี๋ยว ในโรงอาหาร ที่เดียวกัน ยอมรับว่า ตนเองก็ได้รับผลกระทบมาก จากต้นทุนที่แพงขึ้น อยากให้ภาครัฐช่วยดูแลเรื่องต้นทุนให้ลดลง เพราะทางร้านไม่ต้องการที่จะผลักภาระให้กับนักเรียนนักศึกษา เพราะขณะนี้ ที่ร้านป้าน้อง ก็จำเป็นต้องตักอาหารในปริมาณที่ลดลง ซึ่งก็สงสารเด็ก ๆ ที่รับประทานอาหารไม่อิ่ม
แสดงความคิดเห็น