รวบโจรปืนปลอมพยายามชิงทอง

0003เวลา 11.00 น.วันที่ 24 สิงหาคม 2556 ที่หน้าสภ.เมืองพิษณุโลก พล.ต.ต.พชร  บุญญสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พ.ต.อ.บุญญฤทธิ์  โล่สุวรรณ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมชุดสืบสวนสอบสวนภ.จว.พิษณุโลก แถลงข่าวจับกุม นายอนุตร์  ขจรศรี อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 258 1 ม.2 ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก เป็นผู้ต้องหาพยายามชิมทรัพย์ห้างทองก้าวเจริญดี ถ.มหาธรรมราชา อ.เมือง จ.พิษณุโลก เมื่อ 18.10 น.วันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าของร้านฮึดสู้และไม่ได้ทรัพย์สินไป0002

 

ทั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 18.10 น. วันที่ 18 สิงหาคม 2556 มีเหตุคนร้ายพยายามชิงทรัพย์ห้างทองก้าวเจริฐดี เลขที่ 20/3 ถ.มหาธรรมราชา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก โดยคนร้ายเป็นชาย 1 คน อายุประมาณ 25 ปี ได้ใช้อาวุธปืนปลอมเข้ามาพยายามจี้ชิงทรัพย์ร้านทองดังกล่าว แต่นางกิมลั้ง  สุวราพัฒนาภรณ์ อายุ 49 ปี เจ้าของห้างทองก้าวเจริญดีได้ฮึดสู้ คนร้ายจึงใช้อาวุธปืนปลอม ตีเข้าที่ศรีษะนางกิมลั้งแตก แล้วขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

0001

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนได้ออกติดตามคนร้าย กระทั่งพบผู้ต้องสงสัย ซึ่งทราบชื่อภายหลังคือ นายอนุตร์  ขจรศรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำภาพถ่ายทะเบียนราษฏร์ มาให้นางกิมลั้ง  ผู้เสียหายดู นางกิมลั้งได้ชี้ยืนยันว่าภาพถ่ายเป็นบุคคลเดียวกันที่พยายามเข้าไปชิงทรัพย์ดังกล่าว และทำร้ายร่างกายนางกิมลั้งจนได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากวันเกิดเหตุคนร้าย ไม่ได้สวมหมวกปิดบังใบหน้า แต่เนื่องจากกล้องวงจรปิดของร้านทองเสีย จึงไม่สามารถจับภาพคนร้ายได้ จากนั้น พนักงานสอบสวน ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดพิษณุโลก และศาลได้อนุมัติหมายจับที่ 215/2556 ลงวันที่ 23 สิงหาคม 2556

 

เมื่อได้หมายจับแล้ว พนักงานตำรวจชุดจับกุม จึงได้ออกติดตามจับกุมในทันที แต่ไม่พบตัวที่บ้านพัก ต่อมาสืบทราบว่า ผู้ต้องหา ได้หลบหนีมาทำงานที่ซอย 10 ถ.บรมไตรโลกนารถ ต.ในเมืองอ.เมือง จ.พิษณุโลก จึงแสดงหมายจับและควบคุมตัวมาดำเนินคดีในข้อหาพยายามชิงทรัพย์

ขณะที่ช่วงแถลงข่าว นางกิมลั้ง  สุวราพัฒนาภรณ์ ผู้เสียหาย ได้มาร่วมชี้ตัวยืนยันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชนว่า เป็นบุคคลที่ลงมือก่อเหตุจริง นางกิมลั้ง ระบุว่า ในช่วงนั้น ได้ยืนอยู่ภายในร้าน เพื่อกำลังปิดร้าน คนร้ายเป็นชาย สวมเสื้อยืดสีดำ ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้าน แล้วเดินเข้ามา พร้อมใช้อาวุธปืนจี้เข้ามาที่หน้าอกตนเอง บอกว่า ต้องการทอง ตนตกใจกลัวที่ถูกคนร้ายใช้ปืนจี้เข้ามา จังหวะที่ปืนส่ายไปมา จึงใช้มือจับที่ปืน และยื้อแย่งปืน ต่อสู้กับคนร้าย จังหวะที่คนร้ายดึงปืนกลับไปอยู่ในมือได้ ใช้ปืนตีเข้ามาที่ศรีษะตนจนหัวแตก เย็บ 2 เข็ม คนร้ายได้เปิดประตูเลื่อนหน้าเข้าเคาน์เตอร์ เข้าไปพยายามเปิดตู้กระจกทอง แต่เนื่องจากกระจกล็อค คนร้ายจึงเปิดไม่ได้ และแสดงอารมรณ์ฉุนเฉียว ก่อนรีบวิ่งออกจากร้านและขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ตนจำใบหน้า และเสื้อยืดสีดำ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดมาได้0004

 

นายอนุตร์  ขจรศรี ผู้เสียหายให้การว่า ตนขอปฏิเสธ ตนไม่ได้ลงมือก่อเหตุ ระหว่างเกิดเหตุตนทำงานรับจ้างอยู่ที่ร้านในซอย 10 ถ.บรมไตรโลกนารถ ทำงานรับจ้างทั่วไป และไม่ได้เป็นคนก่อเหตุ

 

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.พชร  บุญญสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก เปิดเผยว่า แม้ว่า จะไม่มีภาพจากกล้องวงจรปิด แต่เนื่องจากผู้เสียหายยืนยันได้อย่างชัดเจน มีการยื้อแย่งอาวุธปืนและต่อสู้ในระยะประชิด จึงมั่นใจว่า เป็นคนร้าย ที่ลงมือก่อเหตุจริง และมีพยานบุคคลแวดนอกร้านยืนยัน จึงมั่นใจว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา ต้องไปให้การต่อสู้ในกระบวนการชั้นศาล

 

 

แสดงความคิดเห็น