นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 11/ 1 หมู่ที่ 14 บ้านไร่กลาง ตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก หลังจากทราบข่าวว่าที่บ้านหลังดังกล่าว มีสี่น้องสูงอายุมีชีวิตความเป็นอยู่ด้วยความยากลำบากตามลำพัง ชาวบ้านที่อยู่ข้างเคียงต้องเข้าไปช่วยเหลือดูแลเพราะไม่มีรายได้ เพราะสูงอายุและพิการกันทุกคน มีรายได้จากเบี้ยผู้สูงรวมกันและคนพิการ รวมกันต่อเพียงเดือนละ 1,900 บาท
โดยนางฉลอง สอนท่าโก อายุ 73 ปี พี่สาวคนโตที่พิการตกจากที่สูงตั้งแต่เด็กต้องรับหน้าที่เป็นผู้ดูแลเลี้ยงดูน้อง 3 คนที่ล้มป่วยและพิการตามลำพัง และเป็นเสาหลักของครอบครัวแทนนายเหรียญ สอนท่าโก น้อยชายคนที่ 2 ซึ่งเกิดโรคเชื้อราที่ขาจนหมอต้องตัดขาเมื่อประมาณ 1เดือนที่ผ่านมา ทำให้ครอบครัวต้องตกอยู่ในสภาวะยากลำบากเพิ่มมากขึ้น ทุกวันนี้นางฉลอง ต้องอาศัยเก็บผักจากสวนหลังบ้านที่ปลูกเองรับประทาน ประกอบกับมีอาหารที่เพื่อนบ้านแบ่งปันมาให้ในบางมื้อ เพื่อใช้ประทังชีวิตนางฉลองบอกว่าขณะรับประทานอาหารที่มีแต่ผักกับน้ำปลา ทุกคนต้องนั่งกินข้าวเคล้าน้ำตาเพราะไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งใคร เพราะทั้ง 4 คนไม่มีลูก หลังจากพ่อกับแม่เสียชีวิตที่นาก็ถูกโกง เหลือเพียงบ้านที่อาศัยอยู่มาตั้งแต่เด็กที่มีผู้ใจบุญออกเงินไถ่ถอนออกจากธนาคารมาให้พอเป็นที่พักอาศัย และด้วยอายุที่เกิน 60 แล้วของทั้ง 4 ชีวิต ทำให้ต้องพักพิงอยู่ได้เพียงแค่ใต้ถุนเมื่อฝนตก น้ำก็จะไหลท่วมพื้นดิน จนต้องคอยระวังสัตว์มีพิษและสัตว์เลื้อยคลาน เช่น งู ตะขาบ ที่คอยมาหลบอยู่ใต้ที่นอน ล่าสุดนางฉลอง ดวงตาเริ่มฝ่าฟางเพราะตรวจพบต้อในดวงตา บอกว่าทุกวันนี้กำลังพยายามไม่ท้อถอยและไม่ต้องการให้น้องๆท้อถอยในชีวิตด้วยเช่นกัน