จากที่นำเสนอ บุคคลหรือผู้นำ ที่มาเผยแพร่ศาสนาต่างๆในเมืองพิษณุโลก โดยการ สร้างโรงเรียน,สร้างโรงพยาบาล เช่น ร.ร.ผดุงราษฎร์(คริตส์เตียน)ผู้ก่อตั้งคือคุณพ่อต๋วนของนายแพทย์เบนทูน บุญอิต ส่วนตัวท่านเอง ก่อตั้งร.พ.พุทธชินราช คราวนี้เรามารู้จักพระภิกษุที่ควรสรรเสริญของศาสนาพุทธกันบ้าง ในพิษณุโลก ร่วมก่อตั้งโรงเรียนปริยติธรรม,โรงเรียนพุทธชินราชและสิ่งยิ่งใหญ่สร้างชื่อเสียงให้กับคนพิษณุโลก
หลวงพ่อเจ้าคุณพระโสภณปริยัติธรรม (ณรงค์ ปภสฺสโร) ประวัติของท่านโดยย่อ ท่านได้เป็นสามเณรเรียนที่วัดทองธรรมชาติที่กรุงเทพฯและกลับมาบวชเป็นพระเมื่อปี พ.ศ. 2491ครั้งเมื่ออายุครบ21ปี ณ วัดสนามไชย อ.พรหมพิราม ปัจจุบัน 65พรรษา(บวช65ปี) ประวัติความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในอดีต ที่มีต่อผู้ได้ไปร่ำเรียนทางธรรมยังวัดที่กรุงเทพฯ ชาวบ้านหนองแขม อ.พรหมพิราม เป็นงานบวชที่ใหญ่มาก ช่วงบวชนาคขึ้นช้างทองอิน ถือว่าเป็นงานใหญ่มากแห่รอบโบสถ์หลวงพ่อกราบใบเสมา ช้างก็โน้มลงวันทาเสมาด้วย มีน้ำตาไหลดีใจ หลวงพ่อกราบช้าง ครั้งนั้นมีท่านเจ้าคุณพระมหามงคลทิพยมุณี อธิบดีสงฆ์วัดทองธรรมชาติเป็นอุปัชฌาย์ และหลวงพ่อเจ้าคุณฯ จึงได้ไปจำพรรษาที่วัดทองธรรมชาติ ตั้งมั่นในธรรมปฏิบัติตามธรรมวินัย ได้ยศชั้นมากมาย ปีพ.ศ.2503ได้กลับมาวัดธรรมจักรรับตำแหน่งเจ้าอาวาส พระครูธรรมจักรสุนทร ได้กิตติกรรมประกาศเกียรติคุณ รางวัลอันทรงเกียรติจากทั้งในประเทศและต่างประเทศมากมาย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก
สร้างชื่อเสียงให้เมืองพิษณุโลกในเส้นทางธรรมการนำชื่อเสียงมา ครั้งได้รับพัดยศวันที่5ธันวาคม2537จากพระเจ้าอยู่หัวฯ ณ พระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย เป็นพระราชาคณะหรือท่านเจ้าคุณ เมื่อเดินทางกลับเป็นงานที่ยิ่งใหญ่มีช้างมารอรับ ท่านกล่าวว่า”ช้างรับยศ รถรับคน” เป็นงานใหญ่ของจังหวัด ผู้คนแห่มารับด้วยความยินดี 46พรรษา อายุ67ปี บารมีของท่านคู่กับช้างที่เป็นสัตว์มหามงคล แฝงไว้ด้วยคติธรรม
(ช้างนั้นมีเรื่องราวเกี่ยวข้องในทางพุทธศาสนา ประวัติของชาติไทย น่าศึกษาเรียนรู้และควรต่อการศรัทธา)
ตัวอย่างบางส่วนที่หลวงพ่อเจ้าคุณเจ้าอาวาส ได้ทำให้ไว้
– ปี พ.ศ. 2499 ได้ร่วมก่อตั้งโรงเรียนช่าง(สารพัดช่าง)วัดทองธรรมชาติเป็นปฐมอาจารย์ ปัจจุบันคือวิทยาลัยสารพัดช่างธนบุรี โรงเรียนสารพัดช่างแห่งแรกของประเทศ
– ร่วมก่อตั้งโรงเรียนราษฎร์มัธยมของวัดใหญ่ ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนพุทธชินราชพิทยาคมปีพ.ศ.2502ท่านได้มาเป็นเลขานุการสอนคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ และถือว่าหลวงพ่อได้ริเริ่มการสอนกรวดวิชาในเวลากลางคืน เพื่อนำไปสอบเทียบวุฒิได้ ไม่ใช่เรียนพิเศษ ต่อมาคือศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยแห่งแรกในจังหวัดพิษณุโลก
(การศึกษานอกโรงเรียน กศน.ในปัจจุบัน)
– ริเริ่มสร้างวิหารพระพุทธชินราชจำลองใน โรงพยาบาลพุทธชินราชปีพ.ศ.2523 สร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ที่มาเข้ารักษาพยาบาล
– ปีพ.ศ. 2503 เข้ารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดธรรมจักรและได้สร้างโบสถ์ต่อเจ้าอาวาสพระครูสังฆรักษ์ ที่มรณะไป ได้สร้างสำเร็จใน6เดือนเริ่มจากที่ท่านเข้ารับตำแหน่ง และได้ตั้งกรรมการทะนุบำรุงวัดอย่างเข้มแข็งด้วยคุณธรรม เล็งเห็นความสำคัญของการศึกษาสร้างโรงเรียนปริยติธรรมสายสามัญ พัฒนาวัดและคน ให้มีปัญญาในทางธรรมและทางโลก ปฏิบัติกิจกรรมของสงฆ์ อย่างจริงจัง จึงได้รับรางวัลต่างๆมากมาย
ฯลฯ
จะเห็นได้ว่าในสมัยก่อนนั้นพระสงฆ์ มีบทบาทมากในการเป็นผู้สอนสั่งให้ความรู้ด้านต่างๆ ,การศึกษาเล่าเรียนนั้นสำคัญมาก การได้บวชเรียนและการได้บรรจุเข้าเป็นข้าราชการบริหารบ้านเมืองที่กรุงเทพยิ่งสำคัญมาก และการที่ผู้ใหญ่ของบ้านเมืองได้ให้ความสำคัญช่วยกันส่งเสริม พัฒนาวัดวาอาราม ,การศึกษาและได้ปฏิบัติตนเองใฝ่ในธรรมเป็นหลัก อยู่ในศีลธรรมอย่างชัดเจน ไม่มีความสนใจในทางโลก,กิเลส,ตัณหาที่รับการซึมซับจากสื่อต่างๆ จากความเจริญทางเทคโนโลยีอย่างเช่นปัจจุบันนี้ ทุกคนต่างๆมุ่งสร้างความดีเป็นนิจ เข้าวัดทำบุญ ก่อให้เกิดความสงบสุข ความรักสามัคคีเป็นหนึ่งเดียว ถือว่าวิถีแบบไทยๆแท้จริง
หลวงพ่อเจ้าคุณพระโสภณปริยัติธรรม (ณรงค์ ปภสฺสโร) เจ้าอาวาสวัดธรรมจักร คือหนึ่งในผู้ที่พวกเราชาวพุทธ และคนพิษณุโลก ควรสรรเสริญ ช่วยบอกเล่าเรื่องราวที่ท่านได้ทำ เพื่อให้เป็นแนวทางปฏิบัติ แก่คนรุ่นต่อๆไป
ขอขอบคุณหนังสือธรรมจักสุนทร 53ปีแห่งการครองวัดธรรมจักร(14เมษายน 2556)เรียบเรียงโดย ร้อยแก้ว สายยิ้ม
(ข้อมูลหลัก จากหนังสือ ทำให้ได้เห็นมุมมองที่น่าสนใจของบรรพบุรุษและความเลื่อมใสพุทธศาสนาในยุคนั้น)
และขอบคุณผู้ให้ข้อมูลประจักษ์จากปากคำ ของหลายๆท่าน)
กล้าณรงค์ ภักดิ์ประไพ
รถรางนำเที่ยวเมืองพิษณุโลก
19 กรกฏาคม 2556