เมื่อเวลา 00.15 น.วันที่ 19 ก.ค. พ.ต.อ.สมนึก มากมี ผกก.สภ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก พร้อมด้วย พ.ต.ท.นพดล ดวงมาตร์พล สารวัตรหัวหน้าสถานีดงประคำ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมพระภิกษุสงฆ์ที่ตระเวนก่อเหตุลักพระพุทธรูปตามวัดต่างๆในเขต อ.นาอินทร์ จ.อุตรดิตถ์ และ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ได้ผู้ต้องหาจำนวน 1 ราย คือพระบุญเที่ยง อาภากโร อายุ 39 ปี พระลูกวัดแห่งหนึ่งใน อ.นาอินทร์ จ.อุตรดิตถ์ หรือ นายบุญเที่ยง สุขเจริญ พร้อมของกลางพระพุทธชินราชจำลองขนาด หน้าตัก 20 นิ้ว เนื้อทองเหลือง อายุกว่า 30 ปี ที่ถูกขโมยมาจากวัดท้องโพลง ต.ดงประคำ อ.พรหมพิราม เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา และพระพุทธชินราชจำลองขนาด 9 นิ้วเนื้อทองเหลือง จำนวน 2 องค์ ที่ถูกขโมยจากวัดฝากบึง ซึ่งเป็นวัดที่ผู้ต้องหาจำพรรษาอยู่ในปัจจุบัน และยังมีพระพุทธรูปและพระเครื่องอีกหลายรายการ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์และเครื่องมือในการงัดแงะอีกจำนวนหนึ่ง และพบขวดน้ำพลาสติกภายภายในเป็นเหล้าหงษ์ทองอีกประมาณ ครึ่งขวด และทำการตรวจยึดรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรน่า สีน้ำเงิน ทะเบียน กค-752 นครสวรรค์อีกจำนวน 1 คัน
จากการสอบสวน พระวิมล อินทรวันโน รักษาการเจ้าอาวาสวัดท้องโพลง ต.ดงประคำ อ.พรหมพิราม ให้การว่า เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมามีชาวบ้านได้มาแจ้งกับตนเองว่ามีรถยนต์เก๋งต้องสงสัยขับเข้ามาภายวัดท่าทางผิดสังเกตคือไม่เปิดไฟหน้ารถ เข้ามาจอดหน้าศาลาธรรมสังเวช ก่อนจะขับออกจากวัดไปอย่างรวดเร็ว ตนเองพร้อมพระลูกวัด จึงได้ไปตรวจสอบที่ศาลาธรรมสังเวช ซึ่งปิดประตูเอาไว้และไม่ได้ล็อคแม่กุญแจ จากการตรวจสอบพระพุทธชินราชขนาดหน้าตัก 20 นิ้ว เนื้อทองเหลืออายุ กว่า 30 ปี ได้หายไปตนเองจึงได้โทรศัพท์แจ้วความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดงประคำ และประสานไปยังสภ.พรหมพิราม เพื่อทำการตั้งด่านสกัดจับคนร้ายได้ที่บริเวณถนนสายเรียบคลองชลประทาน หน้าอบต.พรหมพิราม พร้อมของกลางดังกล่าว ซึ่งที่วัดท้องโพลง นี้เคยถูกคนร้ายมาลักพระพุทธรูปมาแล้วครั้งหนึ่ง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนเดียวกัน
ในเบื้องต้น พระบุญเที่ยง หรือนายบุญเที่ยง สุขเจริญ ให้การรับสารภาพว่า เดิมทีตนเองบวชอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.นาอินทร์ จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งพระพุทธรูปขนาด 9 นิ้วจำนวน 2 องค์ ที่พบในรถเป็นพระที่เจ้าอาวาส อ้างว่าได้มอบให้ตนเองมาไว้บูชา ส่วนพระพุทธชินราชขนาด 20 นิ้วของวัดท้องโพลง ตนเองไม่มีเจตานาจะขโมยเพียงแต่ต้องการพระองค์ดังกล่าวไปไว้ที่สำนักสงฆ์ที่ จ.พิจิตร ไว้ประกอบพิธีสงฆ์ในช่วงเข้าพรรษานี้ ประกอบกับตนเองได้เห็นพระพุทธรูปองค์นี้แล้วถูกใจ จึงตัดสินใจลงมือขโมยเพียงคนเดียว โดยค่อยๆอุ้มพระพุทธรูป เพราะว่าเป็นพระขนาดใหญ่ และหนัก ปกติจะต้องใช้ 2 คนอุ้ม จากนั้นก็นำมาใส่ไว้ภายในรถยนต์เก๋ง แล้วขับออกมาอย่างรวดเร็ว และไม่นึกว่าจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด
ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหาจะต้องประสานไปยังวัดต่างๆในเขต อ.นาอิทร์ จ.อุตรดิตถ์ และ อ.พรหมพิราม ที่ถูกคนร้ายขโมยพระไปและจำทำการขายผลการจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป สำหรับพระบุญเที่ยง หรือนายบุญเที่ยง สุขเจริญ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวส่ง สภ.ดงประคำ อ.พรหมพิราม เพื่อทำการสึก และดำเนินคดีต่อไป
///