วันที่ 15 ก.ค. 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทุกๆวันพระ จะมีร้านก๋วยเตี๋ยว แห่งหนึ่งย่านถนนสายพิษณุโลก-บึงพระ อ.เมืองพิษณุโลก ขายก๋วยเตี๋ยวลดราคา เพียง 5 บาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าราคาถูกกว่าร้านทั่วไป ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ไปตรวจสอบ ก็พบว่าร้านดังกล่าวเป็นเพิงพัก ไม่มีเลขที่ ชื่อร้าน “กุ๋ยเตี๋ยว กูก็กินกัน ทุกวันพระ” เจ้าของร้านชื่อ นายฐิติพงศ์ชาญ ทรัพย์เพิ่มพูนทวี หรือ บิ๊ก อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/2 หมู่ 2 ต.ปลักแรด อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก มาเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว และข้าวไข่เจียว มานานกว่า 2 เดือน ซึ่งบรรยากาศภายในร้านมาลูกค้ามากินก๋วยเตี๋ยวกันจำนวนมาก
นายฐิติพงศ์ชาญ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเอง เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวและข้าวไข่เจียว มาเกือบ 2 เดือนและด้วยตนเองชอบปฏิบัติธรรมเป็นกิจวัตร จากเดิมก๋วยเตี๋ยวราคา 20 บาทเหลือเพียง 5 บาทเท่านั้น ส่วนข้าวไข่เจียว จากเดิมจานละ 10 บาท ก็เหลือเพียง 5 บาท ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายแก่ผู้บริโภค และที่สำคัญทำให้ผู้อื่นได้สามารถรับประทานก๋วยเตี๋ยวราคาถูกกว่าร้านทั่วไป ได้กินอาหารอร่อยราคาไม่แพง และให้ธรรมมะกับลูกค้าในทุกวันพระด้วยเช่นกัน
โดยก๋วยเตี๋ยวที่ขายทุกวันพระ ชามละ 5 บาท นั้น ก็ไม่ได้ลดวัตถุดิบ หรือ ขนาดชามแต่อย่างใด เป็นการขายปกติ เพียงลดราคาเท่านั้น มีทั้งก๋วยเตี๋ยวหมูหมัก ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นยาจีน ลูกชินเนื้อ ลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นปลา ใส่ตำลึง ถั่วงอก มีลูกค้าบางรายที่เข้ามากิน และจ่ายแบงก์พัน ตนเองก็บอกกับเขาว่าก๋วยเตี๋ยวชามละ 5 บาทเท่านั้น ลูกค้าก็แทบไม่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริง นึกว่าติดป้ายไว้หน้าร้านเฉยๆ จากนั้นเป็นต้นมาทุกวันพระ ก็จะมีลูกค้ามานั่งกินกันจำนวนมาก ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ขาดทุนการผลิตเท่าใดนัก ซึ่งคิดว่าเป็นการช่วยเหลือผู้บริโภค นอกจากนี้หากลูกค้าท่านใดสนใจธรรมะ ก็ยังสามารถพูดคุยธรรมะกับตนเอง ได้ถือเป็นการได้สะสมบุญด้วยเช่นกัน
นายฐิติพงศ์ชาญ เผยต่อว่า ที่ตนเองสนใจเรื่องธรรมะ เพราะซึมทรัพย์มาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ ที่อยู่อำเภอบางระกำ ปู่ของตนเป็นคนชอบทำบุญโดยเฉพาะทุกวันพระ ทำให้ตนสนใจปฏิบัติธรรมเรื่อยมา ในวัยเด็กหลังจากเรียนจบและออกหางานทำ ตนก็ออกหางานทำรับจ้างทั่วไป รับจ้างเป็นพิธีกรให้นักการเมืองเวลาเทศกาลหาเสียงบ้าง และค้าขายทั่วไป กระทั่งปี 2552 ได้มาเช่าที่บริเวณนี้ ที่แต่เดิมเคยเป็นที่ทิ้งขยะ จะทำเป็นสวนอาหาร และสุดท้ายก็เปิดเป็นร้านอาหาร ต่อมาลูกค้ามานั่งร้านมากขึ้นก็ร้องขออยากได้คาราโอเกะ ตนก็จัดเป็นร้านคาราโอเกะ นำตู้ร้องเพลงมาเปิดให้ลูกค้า ชื่อร้านกุงก้าบาคาราโอเกะ ต่อมามีลูกค้ามานั่งมากขึ้นก็คุยกัน เห็นตนชอบปฏิบัติธรรมลูกค้าก็ถามว่าทำไมไม่ปิดร้านทุกวันพระ ตนก็ปิดร้านคาราโอเกะในทุกวันพระ คนเห็นตนปฏิบัติธรรมก็สงสัยว่า มาเปิดร้านคาราโอเกะ ที่เป็นสถานที่อบายมุขทำไม ตนก็บอกว่าตนก็ทำหน้าที่ของตน ทำงานของตน ในร้านไม่เอาเด็กผู้หญิงมานั่ง และลูกค้าที่มาก็ชอบคุยเรื่องธรรมมะ ยิ่งเมื่อปิดทุกวันพระ ก็ยิ่งดี ลูกค้ายิ่งชอบ ในพิษณุโลกเองมีร้านอาหารขายเหล้าประมาณ 6,000 ร้าน ถ้าพร้อมใจกันหยุดทุกวันพระ เดือนละ 4 วัน ก็จะช่วยสังคม ลดรายจ่ายของครอบครัวได้ และวันพระก็จะเป็นวันครอบครัว ต่อมาก็อยากทำร้านขายอาหารขายก๋วยเตี๋ยว จึงเปิดซุ้มข้าง ๆ ขายก๋วยเตี๋ยวกุ๋ยเตี๋ยว กูก็กินกัน ทุกวันพระ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตั้งใจให้คนทั่วไปได้ที่กินอาหารอร่อยราคาไม่แพง และให้ธรรมะกับลูกค้าทุกวันพระ เมื่อขึ้นป้าย ก็ได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไป
หากผู้ใดสนใจต้องการไปรับประทานก๋วยเตี๋ยว ที่ร้าน “กุ๋ยเตี๋ยว กูก็กินกัน ทุกวันพระ” ที่อยู่บริเวณถนนพิษณุโลก-บึงพระ ใกล้สี่แยกทางข้ามทางรถไฟตลาดทรัพย์อนันต์ หรือ ฝั่งเดียวกับห้างโลตัส ก็สามารถไปกินกันได้เป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะทุกๆวันพระ ก็จะมีราคาเพียง 5 บาทเท่านั้น หรือ โทรไปสอบถามเส้นทางได้ที่ 086-9330998