เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 10 ก.ค.2556 ผู้สื่อข่าวไดรับแจ้งจากชาวบ้าน หมู่ 7 ต.วัดโบสถ์ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ว่ามีพระภิกษุที่จำพรรษาอยู่ที่วัดโบสถ์ พบรอยดินลักษณะคล้ายรอยพญานาค โผล่อยู่ทั่วบริเวณกุฏิของอดีตเจ้าอาวาสองค์ก่อน ซึ่งลักษณะเป็นรอยปรากฏเป็นคราบดิน เป็นทางยาวขดไปมาอยู่ภายให้องเก็บหลังสือเก่า จึงได้เดินทาไปตรวจสอบเป็นกุฏิของพระครูเมธา ประยุตต์ อดีตเจ้าอาวาสวัดโบสถ์ อดีตรองเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งได้มรณภาพไปเมื่อสามปีก่อนหน้านี้ และมีพระลูกวัดมาอาศัยพักอยู่ชั้นสองของกุฏิ บริเวณจุดที่พบรอยประหลาดนี้เป็นบริเวณชั้น 1 ห้องโถงซึ่งใช้สำหรับเก็บหนังสือเก่าของทางวัด พบมีร่องรอยลักษณะคล้ายสัตว์เลื้อยคลาน ที่ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นรอยพญานาค เลื้อยไปมาทั่วบริเวณดังกล่าวซึ่งรอยมีด้วยกัน 3 ขนาดด้วยกัน โดยหลังจากชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างแห่มามุงดูรอยพญานาคกันจำนวนมาก
จากการสอบถามพระบัญชา ธรรมโร พระลูกวัดที่อาศัยอยู่กุฏิดังกล่าว เล่าให้ฟังว่าเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 9 ก.ค. ที่ผ่านมาได้มีฝนตกลงมาอย่าหนักทำให้น้ำฝนปริมาณมากไหลเข้ามาท่วมขังบริเวณห้องเก็บหนังสือดังกล่าวท่วมสูงประมาณ 10 เซนติเมตร จนกระทั่งเวลา 04.00 น.ของวันที่ 10 ก.ค. ตนได้ลงมาตีระฆังเพื่อให้พระสงฆ์ในวัดมาร่วมกันทำวัตรเช้า และสังเกตว่ามีรอยประหลาดเลื้อยพื้นปูนดังกล่าวไปมาหลายรอบด้วยกัน ตนจึงได้ไปตามชาวบ้านมาช่วยกันดูตอนแรกคิดว่าเป็นสัตว์เลื่อยคลานเกรงว่าจะเป็นสัตว์มีพิษและหลบซ่อนอยู่ในกุฏิแต่ก็ไม่พบสัตว์ดังกล่าวจึงสร้างความประหลาดใจของรอบที่เกิดขึ้นมาอย่างอัศจรรย์ยิงนัก
ทางด้านนายสุรินทร์ วันเที่ยง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 6 ต.วัดโบสถ์ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า หลังจากที่ตนเองทราบข่าวเรื่องรอยพญานาค ที่เกิดขึ้นที่วัดนี้จึงได้เดินทางมาดูให้เห็นกับตา และรู้สึกว่ารอบดังกล่าวน่าจะมาเกิดจากสิงลี้ลับอย่างแน่นอน หลังจากข่าวรอยพญานาคได้แพร่สะพัดออกไปมีชาวบ้านจำนวนมากต่างแห่กันมาดูและวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา