เมื่อเวลา 15.00 น.ของวันที่ 8 ก.ค.2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก พ่อค้า ประชาชนชาวเมืองพิษณุโลก จำนวนกว่า 70 คน นำโดยนายจรูญ วิเชียรไพศาล พ่อค้าย่านเศรษฐกิจของเมืองพิษณุโลก ได้เดินทางมาพบนายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เพื่อให้พิจารณาและช่วยเหลือเกี่ยวกับโครงการของสำนักนโยบายและแผน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ที่ได้มีการประชุมสร้างความเข้าใจรับความคิดเห็นในการประกาศเขตพื้นที่เมืองเก่าจังหวัดพิษณุโลก ที่ได้ดำเนินการประชุมประชาชนมาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยไม่มีพ่อค้า ประชาชนในย่านเศรษฐกิจ ไปร่วมรับฟังแต่อย่างใด และหวั่นเกรงว่า จะมีการประกาศกำหนดพื้นที่ตัวเมืองเก่า ที่จะส่งผลกระทบให้ย่านเศรษฐกิจ ต้องโดนเวนคืนที่ดิน เพื่อเป็นทรัพย์สินของหลวงได้ ส่งผลให้ชาวเมืองพิษณุโลก ต้องเดินทางมาพบผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เพื่อดำเนินการช่วยเหลือและยับยั้งโครงการดังกล่าว
นายจรูญ วิเชียรไพศาล พ่อค้าย่านเศรษฐกิจของเมืองพิษณุโลก กล่าวว่า การเปิดรับฟังความคิดเห็นในการประกาศเขตพื้นที่เมืองเก่าจังหวัดพิษณุโลก ถือว่าชาวเมืองพิษณุโลก ที่อาศัยในย่านเศรษฐกิจได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเมื่อปี 2550 ได้มีการกำหนดเขตกำแพงเมืองเก่าไปแล้วครึ่งหนึ่ง ส่งผลกระทบให้ชาวเมืองพิษณุโลก ว่า 500 ครัวเรือน และเดือดร้อนขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้ทำเรื่องชะลอโครงการดังกล่าวออกไปอีก และมาคราวนี้มีผู้ที่จะนำเรื่องนี้มาดำเนินการต่อ ทำให้ชาวเมืองพิษณุโลก หวั่นว่าทางธนารักษ์ จะมีการเวนคืนที่ดินเป็นของหลวงอีก ทำให้โฉนดที่ดินของตนเองและชาวเมือง ต้องตกเป็นของหลวงและอาจต้องเช่าที่ดินของตนเองอยู่ได้ อยากให้ภาครัฐเข้ามาดูแลปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนบ้าง
เบื้องต้นนายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ พร้อมกับจะทำหนังสือถึงสำนักนโยบายและแผน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ชะลอเรื่องดังกล่าออกไปอีกไม่กำหนด แต่อย่างไรก็ตามอยากให้ชาวบ้านได้เข้าถึงกระบวนการของรัฐที่อาจมีการกำหนดพื้นที่เมืองเก่าแล้วก็ตาม ประชาชนก็ยังสามารถทำกิน โดยไม่สูญเสียที่ดินของตนเองเป็นของหลวงแต่อย่างใด เหมือนกับจังหวัดภูเก็ต ที่มีกำหนดเขตที่ชัดเจน แต่ประชาชนก็ยังทำกินและมีสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ดินของตนเองเช่นเดิม