วันนี้ (5 ก.ค.) นายสัตวแพทย์ราชันย์ ภูมมะภูติ ปศุสัตว์จังหวัดพิษณุโลก จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ หมู่ที่ 5 บ้านเขาน้อย ต.ดงประคำ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เพื่อทำการตรวจสอบและรักษากระบือที่ป่วยด้วยโรคเฮโมรายิก เซพติซีเมีย หรือ โรคคอบวม หลังพบว่าในพื้นที่ดังกล่าว มีการระบาดของโรคคอบวมในกระบือ ส่งผลให้มีกระบือตายแล้ว 5 ตัว และยังป่วยอยู่อีก 2 ตัว โดยทางเจ้าหน้าที่นำโดยนายนายแพทย์ชัยนาท แสนยศ นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มสุขภาพสัตว์ เดินทางไปที่คอกกระบือของนายชาตรี บ่วงโต อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 182 หมู่ที่ 5 บ้านเขาน้อย ต.ดงประคำ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นคอกต้นตอของการเกิดโรคคอบวมครั้งแรกในจังหวัดพิษณุโลก และมีกระบือตายไปเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. จำนวน 2 ตัวและตายเพิ่มอีก 2 ตัว เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ทำการฉีดพ่นยาและโรยปูนขาวเข้ารอบบริเวณคอกและห้ามน้ำสัตว์ออกนอกพื้นที่และหลังจากรักษาสัตว์ที่ป่วยหายก็จะทำการฉีดวัคซีนให้กับสัตว์ที่เหลือ
นายชาตรี เจ้าของคอกกระบือ กล่าวว่า ตนเองเลี้ยงโคทั้งสิ้น 27 ตัว แต่เมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมาหลังจากซื้อกระบือมาเพิ่ม 1 ตัว จากวัดโบสถ์พบว่า ลูกโคที่เลี้ยงไว้ 5 ตัว อายุ 4 เดือน เริ่มมีอาการซึม มีไข้สูง น้ำมูกน้ำลายไหล จึงรีบแจ้งปศุสัตว์อำเภอพรหมพิรามเข้ามาดู แต่ก็ไม่ทันการณ์เพราะ ลูกโคตายลงภายใน 12 ชั่วโมง แต่ยังดีที่เหลือลูกกระบืออีกตัวที่ทางปศุสัตว์ช่วยรักษาได้ทัน ส่วนกระบือต้นตอทางปศุสัตว์ได้เก็บเชื้อไปตรวจสอบและพบว่ามีเชื้อแบคที่เรียในตัว จึงได้แยกและทำการรักษา ส่วนกระบือที่ตายไปตนตั้งรีบนำไปฝังกลบภายใน 24 ชม.ทันที
นอกจากนี้โรคคอบวม ได้แพร่ระบาดไปสู่คอกของนายบุญจันทร์ หลักเพชร อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นคอกกระบือที่อยู่ติดกัน ทำให้กระบือของนาบบุญจันทร์ ตายไปแล้วอีก 1 ตัวและกำลังติดเชื้ออีก 1 ตัว คือ กระบือ “น้องนาง” กระบือเพศเมีย อายุ 6 เดือน ที่ป่วยหนัก นายแพทย์ปศุสัตว์จึงฉีดวัคซีนยาฆ่าเชื้อ และให้น้ำเกลือ ติดต่อกัน จำนวน 2 วันเพื่อพักฟื้น พร้อมกันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้รอดูอาการกระบือในคอกเดียวกันตลอดเวลา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดออกไปอีก
ขณะที่นายสัตวแพทย์ราชันย์ ภูมมะภูติ ปศุสัตว์จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดพิษณุโลก มีการระบาดของโรคคอบวม ในโคและกระบือ จำนวนทั้งสิ้น 2 อำเภอ คือ อ.พรหมราม และ อ.บางระกำ รวมกระบือ และโค ที่ตายไปจำนวนทั้งสิ้น 9 ตัว และป่วยทำการรักษาอยู่ 11 ตัว ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการกักสัตว์ที่ป่วย ห้ามเคลื่อนย้าย ในรัศมี 5 ก.ม.โดยเด็ดขาด พร้อมกับเก็บเชื้อไปตรวจสอบที่ห้องแลป เพิ่มเติมอีก อีกทั้งได้ประกาศเป็นเขตโรคระบาดชั่วคราว เป็นระยะเวลา 1 เดือน และห้ามเปิดทำการตลาดนัดโคกระบือในพื้นที่ทั้งสองอำเภอเป็นระยะเวลา 1 เดือนเช่นกัน
//////