วันที่ 3 กรกฏาคม 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำในแม่น้ำน่านที่ไหลผ่านเขตอ.เมือง จ.พิษณุโลก ลดต่ำลงมาก แม้จะเข้าสู่ช่วงฤดูฝนแล้ว ขณะที่เขื่อนสิริกิติ์ รายงานข้อมูล ปริมาณน้ำพร้อมใช้งานเหลือไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ เตรียมลดการระบายน้ำออก หลังอุตุนิยมวิทยา รายงานฝนจะทิ้งช่วงในสัปดาห์ เช้าวันนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำน่านที่ไหลผ่านเมืองพิษณุโลก ที่สถานีวัดระดับน้ำในแม่น้ำน่าน N5A เชิงสะพานเอกาทศรถ วัดระดับน้ำได้ 78 เซนติเมตร มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 88 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
นายสมหวัง ปารสุขสาร ผู้อำนวยการฝ่ายบำรุงรักษาและส่งน้ำ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า แม่น้ำน่านช่วงไหลผ่านจ.พิษณุโลกอยู่ในเกณฑ์ต่ำด้วยการบริหารจัดการน้ำร่วมกัน ตามแผนของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ ขณะนี้เขื่อนแควน้อยฯ มีปริมาณน้ำในอ่าง 185 ล้านลูกบาศก์เมตร ( ลบ.ม. ) คิดเป็น 19.7 % จากปริมาณความจุอ่าง 939 ล้านลบ.มีน้ำใช้การได้ 142 ล้าน ลบ.ม. หรือ 15.85 % ของความจุอ่าง ขณะนี้ได้ปรับการระบายน้ำเพิ่มขึ้น จากเดิม ระบายที่วันละ 2 ล้านลบ.ม. ปรับเพิ่มเป็นวันละ 4 ล้านลบ.ม. ขณะที่ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่าง ที่มีต้นน้ำอยู่แถบอ.ชาติตระการ อ.นครไทย มีน้ำไหลเข้าอ่างวันละ 0.74 ล้านลบ.ม.
นายสมหวัง เผยต่อว่า เมื่อเทียบกับ ปริมาณกักเก็บของเขื่อนแควน้อยปีผ่าน ๆ มา จนถึงวันที่ 3 กรกฏาคม 2556 ปีนี้ มีปริมาณกักเก็บต่ำกว่าทุกปี อยู่ที่ 19.7 % ในปี 2555 มีปริมาณน้ำ 23.93 % ปี 2554 มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 42.27 % สาเหตุหลักมาจากปริมาณฝนสะสมที่ต่ำมาก โดยปี 2556 ปริมาณฝนตกสะสมเหนืออ่างเก็บน้ำ ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงปัจจุบันวัดได้ 456 มิลลิเมตร ปี 2555 ปริมาณฝนสะสมในช่วงเวลาเดียวกัน 570 มิลลิเมตร และปี 2554 ปริมาณฝนสะสมในช่วงเวลาเดียวกัน 667 มิลลิเมตร
อย่างไรก็ตาม เขื่อนแควน้อยฯมั่นใจว่า จะสามารถส่งน้ำเข้าช่วงพื้นที่ภาคกลาง และพื้นที่ในโครงการชลประทานเขื่อนแควน้อย 1.5 แสนไร่ได้ตามปกติแน่นอน เพราะโดยค่าเฉลี่ยของปริมาณน้ำท่าที่ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนแควน้อยปีละ 1,691 ล้านลบ.ม. จากการประเมินตามแผน คาดว่าในช่วงเดือนกันยายน 2556 เขื่อนแควน้อยจะมีน้ำในอ่าง 96 % ใกล้เคียงกับปีที่ผ่าน ๆ มาที่น้ำเข้าเต็มความจุ 100 % เพียงแต่ว่าช่วงนี้ที่ฝนตกน้อย การบริหารจัดการน้ำต้องทำร่วมกัน ระหว่างเขื่อนแควน้อยฯและเขื่อนสิริกิติ์ จึงทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำน่านที่จ.พิษณุโลกอยู่ในเกณฑ์ต่ำ และจะขึ้น ๆ ลง ๆ โดยจะบริหารให้น้ำไหลผ่านเมืองพิษณุโลกไม่ต่ำกว่า 90 ลบ.ม.ต่อวินาที
ขณะที่เขื่อนสิริกิติ์ รายงานว่า ขณะนี้มีปริมาณน้ำในอ่าง เก็บน้ำ 3,161.57 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ คิดเป็น 33.24 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง และมีปริมาณน้ำพร้อมใช้งาน เพียง 311.57 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือเพียง 4.68 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่างเท่านั้น ส่วนปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่าง แม้ว่าจะเป็นช่วงฤดูฝน แต่ปริมาณน้ำฝนก็ยังไม่มากพอ โดยเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีปริมาณฯไหลเข้าอ่าง เพียง 5.64 ล้านลูกบาศก์เมตร ในขณะที่ทางเขื่อนระบายน้ำออก วันละ 9 ล้านลูกบาศก์เมตร
ซึ่งเป็นการ ระบายน้ำตามแผนจากมติที่ประชุมของคณะอนุกรรมการติดตาม และวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ซึ่งเป็นการระบายตามนโยบายของรัฐบาลซึ่งต้องการกักเก็บน้ำในเขื่อน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดภัยแล้ง ดังนั้นคณะอนุกรรมการฯจึงปรับแผนการระบายตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์จริงในปัจจุบัน โดย วันที่ 1-7 กรกฎาคม 2556 ระบาย วันละ 9 ล้านลูกบาศก์เมตร
นอกจากนี้ ทางเขื่อนสิริกิติ์ ยังได้แจ้งว่า จากข้อมูลอุตุนิยมวิทยา แจ้งในช่วง 7 วัน ข้างหน้าฝนจะลดลงตามปกติแล้วเดือนกรกฎาคม มักจะมีฝนทิ้งช่วง แผนระบายน้ำจึงเป็นไปเฉพาะเพื่อการอุปโภคบริโภค คือ จะระบายน้ำ ประมาณวันละ 8 ล้าน ลูกบาศก์เมตร และ ในบางช่วงอาจต้องลดลงถึง 4 ล้าน ลูกบาศก์เมตร ขึ้นอยู่กับคณะอนุกรรมการฯพิจารณา ซึ่งมีแนวโน้มว่าในช่วงสัปดาห์หน้า ระดับน้ำในแม่น้ำน่านจะลดต่ำลงไปอีก