นายสมยงค์ จ้อยทอง แกนนำชาวนา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก กล่าวว่า หลังมติ กขช.ได้ยืดจำนำข้าวนาปรัง ปี2555/2556 ออกไปจนถึงวันที่ 15 กันยายน โดยให้จำนำข้าวตันละ 15,000 บาท ส่งผลให้ชาวนา จ.พิษณุโลกและชาวนาทั่วประเทศพึ่งพอใจ อยากฝากขอบคุณรัฐบาล ซึ่งก็จะมีตัวแทนชาวนาเข้าไปขอบคุณแทน ส่วนชาวนาตอนนี้ทุกคนแฮปปี้ ก็จะส่งผลดีต่อรัฐบาล เพราะจริง ๆ ปัญหาทุจริตต่างๆ ของโครงการรับจำนำ ปัญหาข้าวปนเปื้อน เกิดจากการจัดเก็บและการแปรรูปเป็นข้าวสาร แต่ชาวนาอยู่ในขั้นตอนของข้าวเปลือก แต่ก็ไม่อยากโทษใคร เท่านี้ก็ดีแล้วที่เมื่อมีปัญหาชาวนาขอแล้วรัฐบาลให้เวลาเราแบบนี้พวกเรายอมรับได้ เพื่อในการทำนาครั้งหน้า ชาวนาจะได้ควบคุมต้นทุนการปลูกข้าวรองรับโครงการรับจำนำข้าวที่จะลดลง
ด้าน นายราเชน เขาแก้ว ชาวนา ต.ชุมแสงสงคราม อ.บาระกำ จ.พิษณุโลก กล่าวว่า การที่รัฐบาลคงราคาจำนำข้าวเป็นตันละ 15,000 บาทเหมือนเดิมในฐานะชาวนารู้สึกดีใจ อยากขอบคุณรัฐบาลที่ยอมยืดอายุจนสิ้นฤดูกาลทำนาปรัง เพราะชาวนาหลายคนไม่ได้เก็บเกี่ยวทั้งที่ปลูกข้าวรอบเดียวกันแต่กลับไม่ราคาต่างกัน 3,000 บาท แต่จริง ๆ แล้วราคาจำนำที่ 15,000 บาทเป็นสิ่งที่ทาง นายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นำมาหาเสียงกับชาวนาผมไปฟังมาเองกับหู ที่ จ.พิษณุโลก ก็เห็นด้วยกับนโยบาย จึงเลือกเป็นตัวแทน ซึ่งจริง ๆ แล้ว ท่านนายกรัฐมนตรีจะต้องรักษาคำพูดด้วยการให้มีการจำนำข้าวราคาตันละ 15,000 บาท จนสิ้นสุดเทอมของรัฐบาลชุดนี้ นี่เราเลือกเข้ามาเพราะพอใจนโยบายพอเข้ามาบริหารแล้วเปลี่ยนแปลงก็ไม่ยุติธรรมกับชาวนา ส่วนเรื่องที่รัฐบาลอ้างขาดทุน เกิดการทุจริต ชาวนาเราไม่ได้ไปร่วมทุจริตเราทำนาเกิดต้นทุนตามจริง ราคาจำนำข้าวตันละ 15,000 บาท ส่วนตัวมองว่าเหมาะสมชาวนาพอมีเงินเหลือชดใช้หนี้ จุนเจือฐานะความเป็นอยู่ครอบครัวให้ดีขึ้น แต่พอมาลดราคาเหลือตันละ 12,000 บาทชาวนาแทบไม่เหลืออะไร แถมยังต้องแบกรับภาระต้นทุนการทำนาที่สูงขึ้นโดยลำพัง แต่ทุกฝ่ายตั้งแต่เจ้าหน้าที่ โรงสี โกดังเก็บข้าว ต่างได้รับผลประโยชน์จากโครงการถ้วนหน้า ลึกๆ ชาวนาก็รู้สึกน้อยใจอยู่