เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 1 กรกฏาคม 2556 พ.ต.ท.สุทิน ควรชน พนักงานสอบสวนสภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งว่ามีคนร้ายลักทรัพย์ภายในร้านกาแฟครูติ๋ม อยู่ภายในวัดพระศรีรัตมหาธาตุ วรมหาวิหาร หรือ วัดใหญ่ อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังจากรับแจ้งไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบนายทักษิณ อ่อนวัน อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/34 หมู่ 4ต.พลายชุมพล อ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งเป็นเจ้าของร้านยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่
ตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายใช้กรรไกรงัดลิ้นชักเก็บเงินและทรัพย์สินภายในร้าน ได้เงินสดไปประมาณ 1,500 บาท โดยมีกล้องวงจรปิด ที่ทางร้านติดไว้บริเวณด้านบนของโต๊ะเก็บทรัพย์สินดังกล่าว ซึ่งคนร้ายมองไม่เห็น โดยภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นความคนร้าย อายุประมาณ 25 ปี รูปร่างหน้าตาดี ได้เข้ามางัดร้านเวลาประมาณ 18.00 น.ของเมื่อวานที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นเจ้าของร้านปิดร้านไปแล้ว และเมื่อรู้ตัวอีกทีก็มาเปิดร้านเพื่อจะเตรียมขายของใหม่ ก็พบว่ามีคนร้ายงัดทรัพย์สินภายในร้านไปแล้ว จึงเปิดกล้องวงจรปิดดูก็เห็นหน้าคนร้ายดังกล่าว
นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบว่าคนร้ายได้ใช้เวลาเดียวกันงัดสำนักงานรับจองวัตถุมงคล ข้างศาลพิบูลธรรม วัดพระศรีรัตมหาธาตุ วรมหาวิหาร ที่เกิดเหตุเป็นสำนักงานรับจองวัตถุมงคล ของ พ.อ.เทพ ไวยาวัจกรวัดใหญ่ ถูกคนร้ายเปิดเข้ามาทางประตูกระจกบานเลื่อน ที่คาดว่าจะใช้กุญแจผีเปิดเข้ามา เนื่องจากไม่พบร่องรอยงัดแงะที่ประตู ภายในพบร่องรอยการรื้อค้นเอกสารภายในห้องกระจัดกระจายจำนวนมาก คนร้ายได้พยายามรื้อค้นทรัพย์สิน รวมถึงกล่องพระเครื่อง เต็มไปหมด เบื้องต้นยังไม่ทราบว่า ภายในห้องสำนักงานของพ.อ.เทพ พันตา มีทรัพย์สินอะไรสูญหายไปบ้าง ต้องรอพ.อ.เทพ เจ้าของห้องมาตรวจสอบ
และพบการเปิดประตูด้านข้างของห้องสำนักงาน ทะลุเข้าไปยังห้องสุขาของวัดใหญ่ ที่อยู่ติดกับสำนักงาน พบร่องรอยคนร้าย พยายามงัดตู้รับบริจาค ค่าบำรุงห้องน้ำของวัดใหญ่ โดยใช้เทียนจุดไฟเผา บริเวณด้านบนของกล่องรับบริจาค มีมีดสั้นวางอยู่ด้านบน คาดว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่คนร้ายพยายามงัดตู้ แต่ไม่สามารถงัดได้ เนื่องจากตู้มีสองชั้น ชั้นในเป็นตู้ไม้ ชั้นนอกเป็นตู้เหล็ก และล็อคกุญแจสายยูปิดตู้เหล็กชั้นนอก
จากการสอบถามพนักงานรักษาความสะอาดของวัด กล่าวว่า ตนมีหน้าที่ทำความสะอาดภายในบริเวณวัดใหญ่ ที่ปกติจะมาทำงานตั้งแต่เช้ามืดเพื่อเปิดห้องน้ำ และปิดไฟสปอร์ตไลท์ เช้านี้มาปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เวลาตี3 เมื่อมาถึงสำนักงานของ พ.อ.เทพ ปรากฏว่า พบประตูบานเลื่อนเปิดอยู่ เมื่อตรวจสอบก็พบร่องรอยของคนร้ายรื้อค้นทรัพย์สินภายในสำนักงานจนกระจัดกระจายเต็มไปหมด และพบว่าคนร้าย ได้เปิดประตูด้านในสำนักงาน ที่เชื่อมกับห้องสุขา ไปงัดตู้บริจาคที่ตั้งอยู่หน้าห้องน้ำ และมีร่องรอยคนร้ายพยายามงัดตู้บริจาค ที่ยังไม่ได้เงินไป คาดว่าคนร้ายคงกลัวคนเห็น เพราะปกติแล้ว จะมีพนักงานรักษาความปลอดภัยนั่งอยู่ด้านหน้าห้องน้ำ และเป็นการเข้ามาขโมยครั้งที่สองในรอบเดือนแล้ว ครั้งแรกช่วงต้นเดือนมิถุนายน ก็มางัดห้อง พ.อ.เทพ และรื้อค้นลิ้นชักโต๊ะ ได้เงินสดไปประมาณ2,000 บาท
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าคนร้ายรายนี้น่าจะเป็นคนเดียวกันที่งัดร้านกาแฟ และตู้บริจาค ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดไปตรวจสอบและติดตามหาตัวคนร้ายรายนี้ต่อไป
แสดงความคิดเห็น