วันที่ 20 มิถุนายน 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ว่าระยะนี้ จะเข้าสู่ช่วงฤดูฝน แต่ปรากฏว่าระดับน้ำในแม่น้ำน่านในเขตอ.เมืองพิษณุโลก กลับลดต่ำลงเป็นอย่างมาก โดยที่สถานีวัดระดับน้ำ N5A เชิงสะพานเอกาทศรถ วัดระดับน้ำในเช้าวันนี้ (20 มิถุนายน 2556) ระดับน้ำอยู่ที่ 58 เซนติเมตรเท่านั้น ซึ่งจากการลดลงของระดับน้ำในแม่น้ำน่านดังกล่าว ขณะนี้เริ่มส่งผลกระทบ เป็นวงกว้าง โดยเฉพาะ ประชาชนกว่า 3 หมื่นครัวเรือน ที่ต้องใช้น้ำประปา จากกองการประปาเทศบาลนครพิษณุโลก
เนื่องจาก ปริมาณน้ำที่ลดต่ำลงเหลือไม่ถึง 1 เมตร ทำให้การสูบน้ำดิบจากแม่น้ำน่านขึ้นมาเพื่อผลิตน้ำประปา ได้ปริมาณน้ำดิบลดลง ทำให้กองการประปาเทศบาลนครพิษณุโลก ต้องลดกำลังการผลิตเหลือแค่ 500 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้น้ำประปา ที่อยู่ปลายสาย ไหลน้อยถึงไม่ไหลเลย โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน
สิบเอกเสถียร สวนเอก หัวหน้างานผลิตกองการประปา เทศบาลนครพิษณุโลก ได้นำผู้สื่อข่าว ดูระบบการผลิตประปา โดยได้แจ้งว่า ขณะนี้ หัวสูบน้ำดิบ ที่โรงสูบน้ำ ซึ่งปกติจะมีอยู่ 6 หัว ขณะนี้ มีอยู่ 1 หัว ที่ลอยพ้นน้ำ ไม่สามารถดึงน้ำดิบจากแม่น้ำน่านขึ้นมาผลิตประปาได้ ทำให้ต้องลดปริมาณการผลิตลง 500 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง จากที่เคยผลิต 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจากการลดปริมาณดังกล่าว ทำให้แรงดันน้ำประปาไหลอ่อน หรือ ไม่ไหลเลย โดยเฉพาะในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เบื้องต้น ได้เตรียมแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ด้วยการจะต่อท่อ จากหัวสูบน้ำที่ลอยพ้นน้ำ ให้สามารถสูบน้ำดิบจากแม่น้ำน่านขึ้นมาได้ แต่หากแม่น้ำยังลดระดับลงเรื่อย ๆ ก็จะต้องเร่งหาแนวทางแก้ไขต่อไป
สิบเอกเสถียร ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมา ปริมาณน้ำในแม่น้ำน่านก็ลดลง แต่ ไม่ยังไม่เคยต่ำถึงระดับนี้มาก่อน เพราะช่วงแล้งที่ผ่านมา ปริมาณน้ำดิบไม่กระทบต่อการผลิตน้ำประปาเลย แต่ระดับน้ำที่ลดลงต่ำในครั้งนี้ นับว่าเป็นระดับน้ำที่ลดต่ำสุดในรอบ 20 ปี และเป็นครั้งแรก ที่ต้องลดกำลังการผลิตน้ำประปา
เบื้องต้น ทางเทศบาลนครพิษณุโลก ได้ประกาศแจ้งเตือนไปยังประชาชน ให้สำรองน้ำไว้ใช้ และทางเทศบาลนครพิษณุโลก ได้ประสานไปยังสำนักงานโครงการชลประทานที่ 3 เพื่อประสานเขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ให้เพิ่มการระบายน้ำเพื่อจะได้มีปริมาณน้ำเพียงพอกับการผลิตน้ำประปาแล้ว