เรื่องราวของพิษณุโลกนั้นมีความสำคัญในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยทุกยุคทุกสมัยจากหลักศิลาจารึก,พระราชหัตเลขา,พงศาวดาร,จดหมายเหตุ,เอกสารอ้างอิง,และอีกมากมาย ในส่วนที่เป็นหลักฐานอาทิเช่น โบราณสถานโบราณวัตถุมีน้อยมากที่สมบูรณ์ในปัจจุบัน ทั้งมีอาคารบ้านเรือน ศิลปวัฒนธรรมวิถีชีวิตที่เกิดขึ้นจนเป็นวิถีของคนปัจจุบัน
ยุคสมัยที่โดดเด่นมาก เรื่องการปกครอง,การทหาร,การเผยแผ่ศาสนาหลายศาสนาและการศึกษาฯ ใน สมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่5
และคงทิ้งร่อยรอยหลักฐาน ให้เห็นเป็นสิ่งที่จับต้อง ศึกษาค้นคว้าได้ แก่คนรุ่นปัจจุบัน ตัวอย่าง เริ่มจาก
ปีพ.ศ.2437 การได้ขึ้นเป็นมณฑลพิษณุโลกใช้พิษณุโลกบัญชาการพิจิตร,สุโขทัย,สวรรคโลกและพิชัย(อุตรดิตถ์) ยังคงมีอาคารทรงไทยปั้นหยา ที่สำนักงานป่าไม้ได้เป็นรอยอารยะให้เห็น
พ.ศ.2442การเริ่มต้นสร้างรถไฟสายเหนือแบ่งการสร้างเป็น4ช่วง 1.จากลพบุรีมาปากน้ำโพ 2.ปากน้ำโพมาพิษณุโลก 3. จากพิษณุโลกไปอุตรดิตถ์ 4.อุตรดิตถ์มาสิ้นสุดที่เชียงใหม่ใช้เวลาสร้างหลายปีมาสำเร็จปี พ.ศ.2460
พ.ศ.2442 ได้มีการจัดตั้งเป็นโรงเรียนประจำมณฑล เดิมกำเนิดมาจาก โรงเรียน ก.ข. นะโม (ปัจจุบันคือโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม) ที่ผลิตกำลังคนมารับใช้ราชการในอดีตจำนวนมาก มีพระครูโลกเชษฐชินราชบริบาลดำรงตำแหน่งเป็นครูใหญ่คนแรก
พ.ศ.2442 กำเนิดโรงเรียนผดุงราษฎร์ จากเดิมเผยแผ่ศาสนาคริสต์ นิกาย โปรแตส์แตนท์ โดยนายบุญต๋วนและนางกิมฮ็อก บุญอิต(บิดาของนายแพทย์เบนทูน บุญอิต)เปิดโรงเรียนสอน, นำยามารักษาประชาชนท้องถิ่นเป็นโรงหมอ ย้ายไปสร้างโรงพยาบาลพุทธชินราช สถานที่เดิมจึงตั้งเป็นโรงเรียนมาจนถึงปัจจุบัน
พ.ศ.2444 เป็นปีที่ยิ่งใหญ่ของพิษณุโลกในการรับเสด็จรัชการที่5 ที่ทรงมาหล่อพระพุทธชินราชจำลองไปประดิษฐานยังวัดเบญจมบพิตรฯ มีร่องรอยอารยะไว้เป็นหลักฐานอย่างมากมายทั้งเอกสารและวัตถุที่เห็นเช่น
– การที่ได้พบพระพิมพ์นางพญาบริเวณสร้างสถานที่ต้อนรับ บริเวณวัดนางพญาและนำถวายรัชกาลที่5 ทำให้โด่งดังเข้าในชุดเบญจภาคีเนื้อดินจนเป็นเอกลักษณ์คู่เมือง
– เมื่อหล่อพระพุทธชินราชจำลองลุล่วงได้ทรงปลูกต้นโพธิ์ไว้ในบริเวณที่หล่อพระในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ
– รัชกาลที่5ได้ทรงเสด็จประพาสทางน้ำ ปัจจุบันยังมีเรือสมัยนั้นให้ชมที่วัดราชบูรณะ เป็นเรือที่ผู้ศรัทธากราบไหว้และลอดท้องเรือขับไล่สิ่งชั่วร้ายและนำโชคลาภสู่ตนเองตามความเชื่อนำสู่ความสำเร็จ
– ยังมีเอกสารพระราชหัตถเลขา,รูปภาพเก่าบันทึกการเสด็จประพาส มีเรื่องราวมากมายกับการเสด็จของราชการที่5ครั้งนั้นและเอกสารจดหมายเหตุสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ที่พระองค์ได้ทรงเสด็จมาสำรวจก่อนทรงนำรัชกาลที่5 เสด็จประพาสพิษณุโลก บันทึกสถานที่สำคัญ วัดวาอาราม โบราณสถานโบราณวัตถุอาทิระฆังที่มีหูรูปครุฑยุตนาค,ธรรมมาสนห์,บานประตูพระวิหารที่
สวยงามในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ, วัดราชบูรณะ,วัดนางพญา,วัดใหม่อภัยราม,ชุมชนหรือย่านต่างๆเช่นสระแก้ว,บ้านคลอง,อาคารความเป็นอยู่ชาวแพตลอดเส้นทางเสด็จ เป็นต้น
พ.ศ.2445-6 การส่งทหารจากพิษณุโลกไปปราบชนกลุ่มน้อยที่ยึดเมืองแพร่ โดยทหารได้นำพระกรุจากวัดท่ามะปรางติดตัวไปเป็นขวัญกำลังใจต่อสู้ พวกเงี้ยวลั่นไกปืนไม่ออกฟันไม่เข้าทิ้งปืนหนีและยอมพ่ายทหารไทย จนได้ต้นกำเนิด “พระเงี้ยวทิ้งปืน” แห่ง วัดท่ามะปรางและหลังจากนั้นไห้เป็นการก่อตั้งกรมบัญชาการทหารบกมณฑลพิษณุโลก พ.ศ.2446 มาเป็น ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกองทัพภาคที่3 ในปัจจุบัน
นี่คือตัวอย่างเพียงบางส่วนเท่านั้น ของรอยอารยะที่เห็นควรให้เยาวชนนักเรียนนักศึกษาหรือผู้สนใจ ได้เรียนรู้ความเป็นหนึ่งของพิษณุโลก เรียนรู้ตามยุคสมัยอย่างเป็นระบบที่ได้มีพัฒนาการตามกระแสโลก ,นโยบายของชาติของการปกครอง,ของสังคมและวิถีการดำรงชีพของคนสมัยนั้นๆ
ประวัติศาสตร์พิษณุโลกคือประวัติศาสตร์ชาติไทยและจะนำสู่อนาคตความยั่งยืนของความเป็นประเทศไทย เมื่อถึงเวลาต้องรวมเป็นกลุ่มประชาคมอาเซียน ปีพ.ศ.2558 นี้
กล้าณรงค์ ภักดิ์ประไพ
รถรางนำเที่ยวเมืองพิษณุโลก
12 มิถุนายน 2556