เวลา 09.00 -12.00 น. วันที่ 9 มิถุนายน 2556 ที่หอประชุมจักรกฤษณ นาคะรัต โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก กระทรวงพาณิชย์ นำโดยนายบุญทรง เตริยาภิรมณ์ รัฐมนตรีว่ากระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อย รมช.พาณิชย์ นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.กระทรวงการคลัง และสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ร่วมกันจัดเสวนา จำนำข้าวสัญจร จับเข่าคุยเกษตรกรชาวนา ขึ้น เพื่อเป็นการชี้แจงเรื่องเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล เนื่องจากที่ผ่านมา ได้มีการร้องเรียนจากชาวนา และนักการเมืองมากขึ้น ส่งผลให้ทางรัฐบาล ได้จัดให้กระทรวงพาณิชย์ ได้เดินสายชี้แจง ให้แก่เกษตรกรที่เป็นชาวนาในพื้นที่ต่างๆ ขึ้น โดยเริ่มจากที่ จ.พิษณุโลก เพื่อให้ชาวนาได้เข้าใจและมีรายได้จากการจำนำข้าวของรัฐบาลมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยมีชาวนาใน จ.พิษณุโลก มารับฟังจำนวนประมาณ 2,000 คน
นายบุญทรง เตริยาภิรมณ์ รมว.กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลปีแลกขาดทุน 2.6 แสนล้านบาท ขอยืนยันว่าไม่จริง เป็นข้อมูลที่นำเสนอที่ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าเป็นอย่างไร กำลังตรวจสอบข้อมูลที่มาที่ไป โครงการรับจำนำข้าว เป็นโครงการที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร เมื่อรัฐบาลทำโครงการ มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ว่าทำความเสียหายให้ประเทศชาติ ในวันนี้ จึงเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด มาทำความเข้าใจและชี้แจงข้อเท็จจริงของโครงการรับจำนำข้าวโดยพูดคุยกับเกษตรกรชาวนาที่จ.พิษณุโลกเป็นแห่งแรก และจะเดินสายในพื้นที่ภาคอื่นต่อไป
นายบุญทรง เผยต่อว่า ขอยืนยันว่า แม้โครงการรับจำนำข้าวใช้เม็ดเงินมากก็จริง แต่เม็ดเงินเหล่านั้นลงไปสู่มือเกษตรกรอย่างแท้จริง มีระบบการจ่ายเงินที่ชัดเจน มีระบบบันทึก ระบบตรวจสอบ มีหน่วยงานออกตรวจสอบไม่ให้ชาวนาถูกเอารัดเอาเปรียบ มีหลายราย ที่ถูกดำเนินคดี ถูกฟ้องร้อง ขอยืนยันว่า รัฐบาล จะเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวต่อไป แต่เราต้องมีความมั่นใจร่วมกันว่า เม็ดเงินที่ลงไป มีผลบวกกับชาวนา ผ่านกลับมาส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ อย่างเช่น เมื่อปี 2554 มีน้ำท่วมใหญ่ รัฐบาลเริ่มโครงการรับจำนำข้าวปีแรก 2555 ใช้เงินในโครงการ 2 ฤดูกาลผลิต 3 แสนล้านบาท ทำให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมเสียหายจากน้ำท่วม
ในปีที่สองของโครงการรับจำนำข้าว ทั้งการรับโครงการข้าวเปลือกนาปรังและนาปี รัฐใช้เงินไปประมาณ 6 แสนล้านบาท มีข้าวเปลือกมาอยู่ในมือรัฐบาล และแปรสภาพเป็นข้าวสารเพื่อระบายออก และนำเงินคืนรัฐบาลไปแล้ว 1.2 แสนล้านบาท เราดำเนินโครงการนนี้ด้วยความระวัดระวัง และรัฐบาลไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง เปิดเผยว่า การจ่ายเงินของโครงการรับจำนำข้าวที่ผ่านมาไม่มีปัญหาเรื่องการจ่ายเงิน ธกส.สามารถจ่ายเงินถึงมือชาวนาได้ มีปัญหาเดียว คือ เกษตรกร ที่เข้าร่วมโครงการเกินกว่า 5 แสนบาท ที่ต้องมีคณะอนุกรรมการระดับจังหวัดเข้าไปตรวจสอบเพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์ ตรวจสอบยืนยันให้ได้ข้อมูลว่าเป็นข้าวของเกษตรกรจริง ทำให้เกษตรกรส่วนนี้ได้รับเงินล่าช้า ระยะ 3-4 เดือนที่ผ่านมา โครงการรับจำนำข้าวถูกโจมตีมาตลอด จึงต้องตรวจสอบการรับจำนำให้ชัดเจน เป็นที่มาที่ไม่สามารถจ่ายเงินให้เกษตรกรได้รวดเร็ว โครงการรับจำนำข้าว เป็นโครงการที่ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร ทำให้ฝ่ายตรงข้ามกลับรัฐบาล ไม่อยากให้โครงการนี้สำเร็จ ถ้าสำเร็จ เลือกตั้งครั้งหน้าประชาชนก็จะเลือกพรรคเพื่อไทยเข้ามาบริหารอีก ทำให้มีการโจมตีออกมามาก และขอยืนยันว่า รัฐบาล จะเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวต่อไป
นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ รมช.กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า โครงการทุกชนิดที่รัฐบาลทำเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกร ไม่ว่าจำนำข้าว หรือ แทรกแซงราคา เป็นโครงการที่ไม่ประสงค์กำไร ในโลกของความเป็นจริงคือ ควักเงินของรัฐอุดหนุนเกษตรเป็นหลัก หลังรัฐบาลเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวมา ดึงดูดให้ชาวนานำข้าวมาเก็บกับรัฐ เมื่อข้าวถูกดูดออกจากตลาดมาก มาอยู่ในมือรัฐ ขณะที่ความต้องการข้าวในประเทศและตลาดต่างประเทศยังมีอยู่ ส่งผลให้ราคาข้าวถูกยกตัวสูงขึ้น ชาวนาที่ร่วมจำนำข้าว ก็ได้เงินเพิ่มตามสภาพความเป็นจริงของคุณภาพข้าวและความชื้น ชาวนาที่ไม่ได้จำนำข้าว ก็ได้ประโยชน์จากราคารับซื้อที่สูงขึ้น
ถามว่าขาดทุนมั้ย ขาดทุนแน่นอน โครงการรับจำนำข้าว มีคณะอนุกรรมการปิดบัญชี ที่ปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน โดยมอบหมายให้รองปลัดทำข้อมูลการปิดบัญชี ตัวเลขเหล่านี้ ขาดทุนเท่าไหร่ จะเสร็จสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อผ่านที่ประชุมคณะกรรมการข้าว หรือ กขช. ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน แต่ที่น่าประหลาดใจคือ วันที่ 23 พค.56 ได้ประชุมคณะอนุกรรมการปิดบัญชี และสรุปเป็นเอกสารลับ แต่กลับมาโผล่ข้อมูลในเฟซบุ๊คของรองนายกฯสมัยที่แล้ว ว่าปีแรกของการจำนำข้าว รัฐขาดทุน 2.6 แสนล้านบาท
นายณัฐวุฒิ เผยต่อว่า ยืนยันว่าตัวเลขนี้ไม่มีที่มาที่ไป มาจากเฟซบุ๊ค มาจากคนที่แถลงข่าวโจมตีรัฐบาล ทั้งเฟซบุ๊ค และการแถลงข่าวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ล่าสุดแถลงว่2.2 แสนล้านบาท และขาดทุนดำเนินการ 4 หมื่นล้านบาท จนถึงขณะนี้ เอกสารจากคณะอนุกรรมการปิดบัญชี ก็ยังไม่ได้นำเข้าที่ประชุมกขช. อย่างเป็นทางการ จะมาคาดคั้นให้กระทรวงพาณิชย์ตอบว่าขาดทุนเท่าไหร่ จึงยังสรุปไม่ได้
นายณัฐวุฒิ เผยต่อว่า ตัวเลขจากธกส. ได้รายงานให้เห็นว่า มีเม็ดเงินเข้าถึงมือเกษตรกรชาวนา ในปีแรกของโครงการรับจำนำข้าว ข้าวนาปีฤดูการผลิต2554/2555 มีข้าวเปลือกเข้าร่วมโครงการ 6.95 ล้านตัน โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกร 118,000 ล้านบาท ข้าวนาปรังฤดูการผลิต2555 มีข้าวเข้าโครงการ 14.7 ล้านตัน โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกร 218,000 ล้านบาท รวมปีแรก มีข้าวเข้าโครงการ 21.65 ล้านตัน โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกร 337,000 ล้านบาท
ในปีที่สองของโครงการ ฤดูการผลิต 2556 รอบแรก มีข้าวเข้าโครงการ 14.02 ล้านตัน โอนเงินเข้าเกษตรกร 228,000 ล้านบาท รอบที่สอง ข้าวเข้าโครงการ 3.45 ล้านตัน โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกร 52,000 ล้านบาท รวมโครงการรับจำนำข้าว 2 ปี โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรแล้ว 618,000 ล้านบาท ส่งผลให้เกษตรกรที่เป็นชาวนา มีรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสานที่ปลูกข้าวมาก และรัฐบาลยืนยันว่าจะดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวต่อไป ส่วนตัวเลขการขาดทุนนั้น จะไปสรุปแน่ชัดในที่ประชุมกขช.ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และกระทรวงพาณิชย์ จะเดินสายจัดเวทีสัญจรพบเกษตรกรอย่างที่จ.พิษณุโลกในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป
/////