ภัยร้าย คนร้ายแกล้งตีสนิท ก่อนชิงทรัพย์พ่อเฒ่าขายของชำ

ffw

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 4 มิ.ย. ร.ต.อ.อนุชา เนตรจินดา ร้อยเวรสภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ที่ร้านขายของชำภายใน ต.พลายชุมพล หลังรับแจ้งรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย ชุดสืบสวนที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักสองชั้นเลขที่ 22/2 หมู่ 4 ต.พลายชุมพล บริเวณชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายของชำและพบผู้เสียหายยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบชื่อต่อมาคือนายโบ อิ้มแตง อายุ 79 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว พร้อมให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเบื้องต้น ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองอยู่ในบ้านพักซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ ได้มีคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 40 ปี รูปร่างท่วมสูงประมาณ 160 เซนติเมตร เดินเข้ามาทักตนเองและพูดว่า พ่อจำผมได้ไหม ผมเพื่อนมงคล ลูกชายพ่อ เคยมาเที่ยวหาเมื่อปีที่แล้ว

gggg

a (3)

นายโบ ให้การต่อว่า หลังจากนั้นคนร้ายก็ได้พุดคุยตีสนิท ว่ารู้จักคุ้นเคยกับลูกชายของตนเองเป็นอย่างดีด้วยความไว้ในจึงได้เชิญเข้ามาในบ้านพักและนำน้ำมาให้ดื่มซึ่งคนร้ายได้อ้างว่าเดือดร้อนขอยืมเงินจำนวน 1,000 บาท เพื่อจะไปงานศพญาติและจะนำมาใช้ให้ ด้วยที่ตนเองเห็นว่าคนร้ายได้พูดคุยว่ารู้จักลูกชายตนเองเป็นอย่างดีจึงได้เดินเข้าไปในห้องพักหยิบกระเป๋าเงินออกมาเพื่อจะนำเงินมาให้คนร้ายยืม แต่ไม่ทันสังเกตว่าคนร้ายได้เดินตามเข้ามาในห้องนอนด้วย ก่อนที่คนร้ายจะเอื้อมมือมาหยิบกระเป๋าเงินและคว้าเงินไปทั้งหมด จำนวน 15,000 บาท ก่อนที่จะรีบเดินออกจากบ้านพักและหลบหนีไป พอตั้งสติได้ตนก็ได้เดินออกตามาและร้องให้คนช่วยแต่ก็ไม่ทันการคนร้ายได้หลบหนีไม่ทราบทิศทาง

a (1)

ขณะที่นางผ่องศรี อิ้มแตง อายุ 45 ปี บุตรสาว กล่าวว่า พ่อของตนเองขายของชำมานานหลายสิบปีแล้วไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนเลย ซึ่งคนเราเดี๋ยวนี้รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ ชอบมาหลอกหลวงโดยเฉพาะผู้สูงอายุ ที่อยู่ตามลำพัง และก็หลอกเอาเงินและทรัพย์สินไป อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เพราะถือว่าเป็นสังคมที่ใกล้ตัว ที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก
ซึ่งจากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเบื้องต้นคนร้ายน่าจะรู้ความเคลื่อนไหวของคนในบ้านทราบว่ามีคนแก่อยู่ด้วยกันตามลำพังกันแค่สองคน และสืบข้อมูลของคนในบ้านพักและเข้ามาตีสนิทก่อนที่คนร้ายจะลงมือชิงทรัพย์หลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วและฝากเตือนประชาชนที่ปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านตามลำพังอาจตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้ได้

//////

แสดงความคิดเห็น