จับบุกรุกป่าสงวนลุ่มน้ำวังทองฝั่งขวา

2วันที่ 31  พฤษภาคม  2556 นายอดิเรก อินใจผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า
สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลกได้รับการสั่งการนายธนัช  เนมีย์  ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่4 สาขาพิษณุโลก ว่ามีผู้บุกรุกแผ้วถางป่าสงวนแห่งชาติจำนวน 2 แห่ง จึงประสาน นายนันทพงษ์คำปิน หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล 5 (ซุ้มขี้เหล็ก)และนายวิชาญขันธ์แก้ว หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล 8 (น้ำยาง),นายธีรพลกาญจนโกมล ชุดปฏิบัติการพิเศษภาคเหนือที่ 1 และ พ.ต.ท.กฤตวัฒน์ลิขิตบัณฑิต บก.ปทส.(ตำรวจป่าไม้) ลงพื้นที่ตรวจสอบในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าลุ่มน้ำวังทองฝั่งขวา   2 จุด คือ ท้ายหมู่ 19ตรงข้ามกับค่ายสฤษดิ์เสนา ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก บริเวณเขาเรดาห์ หรือเขาห้วยน้ำไคร้ หมู่ที่ 3  ตำบลวังนกแอ่นอำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก3

เจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าไปยังจุดแรก บริเวณ  ท้ายหมู่ 19 ตรงข้ามกับค่ายสฤษดิ์เสนา พบว่า บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าบุกรุกใหม่ หลังจากไม่ได้ทำประโยชน์มานาน เพิ่งปลูกต้นมะม่วงพร้อมวางเสาหินปูนแบ่งล๊อก เพื่อแสดงอาณาเขตครอบครองตรวจสอบพิกัดเบื้องต้นมีเนื้อที่เกือบ 200 ไร่พร้อมมีถนนแบ่งคันกลาง
อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าลุ่มน้ำวังทองฝั่งขวาชัดเจน4

จนท.ป่าไม้ สอบสวน นางเปรมฤดี วงค์พาณิชย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 19 ได้ความว่าพื้นที่ป่าที่เคยทำกินมาก่อนเป็นของผู้ใหญ่บ้านเดิม (วิศิษฐ์สิงห์ป่า)ได้ครอบครองมานานและเพิ่งขายให้นายทุนซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารสำหรับนักเที่ยวยามคำคืนชื่อดังในจังหวัดพิษณุโลกจำนวน2 ล้านบาท เนื้อที่ประมาณ 200 ไร่
ตกลงเปลี่ยนมือเรียบร้อยแล้วพร้อมปลูกมะม่วงล้อมรั้วและเตรียมเดินสายไฟฟ้าเรียบร้อย5
ส่วนพื้นเขาเรดาห์ หรือ เขาห้วยน้ำไคร้ พบว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นภูเขาหิน ไม่เหมาะกับการเกษตร แต่มีชาวบ้านสร้างเพิงพักไว้ไม่ต่ำกว่า2-3 หลัง และแบ่งล็อกด้วยเสาปูนซีเมนต์เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้วตรวจยึดบริเวณ 30-40ไร่ ส่วนบริเวณข้างเคียงเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้เรียกผู้ใหญ่บ้านมาตรวจสอบถึงเอกสารสิทธิ์การครอบครองต่อไปทั้งนี้ไม่ปรากฏร่องรอยหลักฐานการเข้าทำประโยชน์มาก่อน
เจ้าหน้าที่ป่าไม้ยืนยันการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้จำนวน  2
แปลงจึงแจ้งข้อหา ฐาน ” แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆอันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ “ตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484  มาตรา54ประกอบมาตรา 55และในข้อหาฐาน  ยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้างแผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ ” ตามพ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14จึงจัดทำบันทึกเรื่องราว  เอกสาร หลักฐานนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรวังทอง เพื่อดำเนินการสืบสวน สอบสวนหาตัวผู้กระทำผิด 2 รายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไ8

แสดงความคิดเห็น