นายพงษ์มิตร ประเสริฐกุล ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า จากกรณีที่นักโทษถูกทำร้ายจนเสียชีวิตในเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ทางเจ้าหน้าที่เรือนจำได้ชี้แจงกับทางญาติถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นเหตุที่ไม่สามารถเข้าไปควบคุมได้เนื่องจากเป็นเรือนนอนที่นักโทษอยู่รวมกัน 40-50 คน ความคับแคบอึดอัดทำให้มีการเหยียบกันแล้วเกิดการทะเลาะวิวาททำร้ายกันเกิดขึ้น ซึ่งช่วงกลางคืนเจ้าหน้าที่มีน้อย เพียง 1-2 คนแต่ต้องดูแลนักโทษถึง กว่า 2,000 คน ซึ่งที่ผ่านมาจะมีนักโทษจัดเวรดูแลกันผลัดละ 1 ชั่วโมง
สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดจ้นประมาณ 05.00 น. ผู้คุมเปิดประตูเวลา 06.00 น. พบผู้บาดเจ็บรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที แต่แพทย์ช่วยชีวิตไว้ไม่ได้เพราะศีษะได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงเสียชีวิตในเวลา 07.32 น. หลงเกิดเหตุทางเรือนจำไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ตั้งกรรมการขึ้นตรวจสอบสอบสวนทันทีพร้อมกักขังผู้ต้องขังห้องเกิดเหตุไว้ ขณะนี้สอบปากคำไป 22 คนจากนักโทษทั้งหมก 48 คน เบื้องต้นมีนักโทษ 2 คน คือ น.ช.ไกรวิทย์ ชูตาล อายุ 22 ปี คดียาเสพติด โทษจำคุก 2 ปี 3 เดือน เหลือโทษจำคุกอีกเพียง 9 เดือน กับ น.ช.ประเสริฐ สุขประสาน อายุ 39 ปี ต้องโทษคดีลักทรัพย์ 6 ปีเหลือโทษจำคุกอีก 3 ปี ได้รับสารภาพว่าเป็นผู้ทำร้ายร่างกาย เนื่องจากไม่พอใจที่ น.ช.สุรัตน์ สีบุตรา ที่เดินไปมาไม่ยอมนอนแล้วไปเหยียบโดนนักโทษทั้ง 2คนบ่อยครั้งจึงเกิดบันดาลโทสะทำร้ายร่างกายด้วยอารมณ์โมโห ซึ่งทางตำรวจได้แจ้งข้อหานักโทษ 2 รายดังกล่าวฐานทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ตนจะเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียชีวิตด้วยตัวเอง
นายพงษ์มิตร กล่าวว่า เหตุการณ์นักโทษทำร้ายกันเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ด้วยเรือนจำมีนักโทษจำนวนมากขึ้น แต่เจ้าหน้าที่เท่าเดิม ความแออัดคับแคบ สภาพอากาศที่ร้อน ส่งผลให้การกระทบกระทั่งเกิดขึ้นได้ง่าย ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บ ไม่ถึงกับเสียชีวิตแบบนี้
แสดงความคิดเห็น