เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ ( 16 พ.ค.56 ) นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ลงพื้นที่ไปที่บริเวณริมน้ำเข็ก บ้านแก่งกุลาเหนือ หมู่ 12 ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง หลังได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 11 กรมอุทยานแห่งชาติและสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก ว่าได้เข้าทำการจับกุมไม้แดงแปรรูป30 แผ่น และไม้ท่อนต้นตะเคียนที่วางริมลำน้ำเข็ก จำนวน 2 ท่อนและยังมีบางส่วนจมอยู่ใต้น้ำ ไม่สามารถชักลากขึ้นมาได้ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ป่าไม้ยังดำเนินการขยายผลและตรวจสอบบ้านบริเวณข้างเคียง พบว่า มีไม้แปรรูป ซึ่งเป็นไม้แดงจำนวน 24 แผ่นซุกซ่อนและอำพรางด้วยใบมะพร้าว บริเวณบ้านเลขที่ 127/1 หมู่ 12 ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง แต่ไม่พบผู้กระทำผิดหรือ เจ้าของบ้าน
จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกจึงได้มอบหมายให้ นายธรรมศักดิ์ พิทักษ์จารุพันธุ์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 11 กรมอุทยานฯ ทำการขอหมายศาลเพื่อค้นบ้านหลังดังกล่าว เนื่องจาก ตรวจสอบพื้นที่ในเขต อุทยานทุ่งแห่งชาติแสลงหลวง พบว่า มีการลักลอบตัดไม้แดงจำนวน 3 ต้น บริเวณบ้านโป่งพลู หมู่ 15 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง ถูกเครื่องเลื่อย ยนต์คาตอจำนวน 3 ต้น และมีร่องรอยชักลากด้วยรถแทรกเตอร์ข้ามลำน้ำเข็กผ่านที่ดินชาวบ้าน ตามระยะทางประมาณ 150 เมตร และไปซุกซ่อนไว้ที่บ้านเลขที่ 127/1 หมู่ 12 ต.แก่งโสภา อ.วังทอง สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า จึงต้องขอหมายศาลบ้านดังดังกล่าว สืบสวนทางลับพบว่า เป็นบ้านของนายสน พรหมาอินทร์ มีไม้ซุกซ่อนจึงขอทำการตรวจสอบและยึดไม้ดำเนินคดีต่อไป
นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เป็นเรื่องดีที่จนท.ป่าไม้ทำการจับกุมและยึดไม้แดงไว้ได้ เพราะพิษณุโลกถือว่า มีป่าไม้มาก แต่จะต้องรักษาไว้ ไม้ท่อนที่พบริมน้ำเข็ก เป็นไม้เพิ่งตัดมาใหม่ ไม่ใช่ไม้เก่า ลอยน้ำมาแน่ๆ สงสัยว่า อากาศร้อน เลยต้องแช่น้ำ ขณะนี้ได้สั่งให้จนท.ป่าไม้ ทำการจับกุมและชี้เป้าผู้กระทำผิดให้ชัดเจน เพื่อป้องกันและป้องปรามไม่ให้ใครมาตัดไม้ในป่าอุทยานฯ ถ้าไม่ปราม หรือจับกุม ก็ไม่สามารถสกัดขบวนการได้หมดจนท.อุทยาน, ป่าไม้,ตชด.และทหาร จะต้องบูรณาการกันทำงานรักษาป่าไม้ ไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด จากนั้นจังหวัด จะสามารถสนับสนุนงบประมาณเพื่อป้องกันและรักษาป่าไม้ในจังหวัดพิษณุโลกให้คงอยู่ต่อไป
/////
แสดงความคิดเห็น