เวลา 13.30 น.วันที่ 13 พฤษภาคม 2556 ที่ห้องประชุมสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก พล.ต.ต.ศิรินทร์ ผดุงชีวิตร์ รองผบช.ภ.6 พ.ต.อ.สมพร อยู่ศรีสกุล รองผบก.ภ.จว.พิษณุโลก ร่วมแถลงข่าวจับกุมนายอธิเทพ มีสง่า อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 ม.2 ต.เพชรชมพู อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี พิษณุโลก เมื่อ 9 พฤษภาคม 2556
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวนายอธิเทพ มีสง่า หรือ โอ๋ ผู้ก่อเหตุมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนพร้อมของกลางที่ตรวจยึดได้ ประกอบด้วย สร้องคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 3 เส้น รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่น โซนิค ทะเบียน กพพ 188 พิจิตร รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ ทะเบียน ขงร 959 พิจิตร สีสเปรย์ จำนวน 1 กระป๋อง ( นายอธิเทพ ใช้พ่นล้อรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุ ) ถุงมือผ้า สีน้ำเงินสลับดำจำนวน 1 ข้าง แหวนลองน๊อตแผ่นป้ายทะเบียนรถจยย. จำนวน 3 วง แผ่นซองปืนเด็กเล่น ยี่ห้อ AGES 5 UP Gun 1 อัน ( ห่อของเล่นปืนปลอมม ราคา 45 บาท ที่นายอธิเทพ นำมาใช้ก่อเหตุจี้ชิงทอง )
ทั้งนี้ เหตุการณ์จี้ชิงทองโดยคนร้ายใช้อาวุธปืน ห้างทองเยาวราชกรุงเทพฯ ในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี อ.เมืองพิษณุโลก เกิดขึ้นช่วงเวลา 15.30 น.วันที่ 9 พฤษภาคม 2556 คนร้าย สวมหมวกกันน็อค ใช้ปืนจี้ชิงทองจากร้านทองเยาวราชกรุงเทพฯ แล้วใช้รถจักรยานยนต์หลบหนีไป เบื้องต้นทางร้านระบุว่า มีสร้อยคอทองคำถูกจี้ชิงทรัพย์ไปจำนวน 17 เส้น เส้นละ 1 บาท
หลังเกิดเหตุแล้ว พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้สั่งการให้บก.สส.ภ.6 เข้าดำเนินการสนับสนุนท้องที่ในการสืบสวนติดตามตัวคนร้าย ผลการดำเนินการ ได้กำหนดพื้นที่สืบสวนค้นหาคนร้ายจากจุดเกิดเหตุและจุดที่พบรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุที่คนร้ายจอดทิ้งไว้ในซอยเสือทิม สภาพอำพรางพ่นสีใหม่ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จากการตรวจสอบเลขตัวรถจักรยานยนต์ ทราบว่าเจ้าของรถอยู่ในพื้นที่อำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร จึงติดตามและไปพบว่า รถจักรยานยนต์ถูกยืมไปก่อเหตุ และต่อมา สามารถจับกุมน.ส.ธญจิรา รุ่งเรือง หรือ หน่อย อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 224 ม.1 ต.สากเหล็ก อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร แฟนของนายอธิเทพ พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำ 3 เส้น ส่วนนายอธิเทพยังหลบหนี กระทั่ง ชุดจับกุม ได้ใช้มาตรการกดดันทุกวิถีทางที่จะทำได้ โดยไปตรวจสอบที่บ้านพ่อแม่ของนายอธิเทพที่กำแพงเพชร แบะบ้านญาติที่สามย่าน กรุงเทพฯ บ้านญาติที่จ.นครราชสีมา และบ้านเพื่อนฝูงในพิษณุโลก พิจิตร กระทั่งวันที่ 12 พฤษภาคม 2556 นายอธิเทพ ทนแรงกดดันของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ไหว จึงติดต่อขอมอบตัวกับพ.ต.อ.พฤกษ์ เลี้ยงสุข ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.6 โดยนัดหมายมอบตัวที่เขตต.วังงิ้ว อ.ดงเจริญ จ.พิจิตร
นายอธิเทพ มีสง่า เปิดเผยว่า สาเหตุที่มอบตัวเพราะสำนึกผิด และกลัวว่าแฟนสาวจะโดนดำเนินคดีด้วย โดยรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ทำงานรับจ้างติดตั้งจานดาวเทียมทั่วไปในพื้นที่จ.กำแพงเพชร แต่มีหนี้สินส่วนหนึ่ง นำรถยนต์ของน้าไปติดหนี้ไว้ในบ่อนการพนันจำนวน 80,000 บาท จึงคิดวางแผนว่าจะก่อเหตุจี้ชิงทองในจ.พิษณุโลก เบื้องต้นเล็งไว้ที่ห้างโลตัส แต่เกรงว่าแฟนสาวจะได้รับผลกระทบด้วย จึงตัดสินใจเลือกมาปฏิบัติการร้านทองเยาวราชกรุงเทพฯ ในห้างบิ๊กซีแทน โดยไปซื้อปืนปลอม ที่อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร ราคา 45 บาทมาใช้ก่อเหตุ
นายอธิเทพ เผยต่อว่า เมื่อมาถึงห้างบิ๊กซีพิษณุโลก สวมหมวกกันน็อค หน้ากาก และซื้อคลุมปิดบังใบหน้า จอดรถจักรยานยนต์ไว้ชั้นใต้ดินห้างบิ๊กซี แล้ววิ่งขึ้นไปใช้ปืนปลอมจี้ ได้สร้อยคอทองคำมาทั้งหมด 13 เส้น จากนั้น ก็ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีเข้าไปในในชุมชนเสือทิม แต่ปรากฏว่า เป็นซอยตัน จึงจอดรถจักรยานยนต์ทิ้งไว้ที่ปากซอย และเดินเท้ามาถึงห้าแยกโคกมะตูม ได้โทรศัพท์ให้แฟนสาวขี่รถจักรยานยนต์มารับ และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์แหนสาวมาบริเวณแยกสนามบิน นึกขึ้นได้ว่าแฟนสาวจะโดนคดีด้วย จึงตัดสินใจลงเดิน ให้สร้อยคอทองคำ 2 เส้นกับแฟนสาวไว้ เตรียมไว้ขึ้นรถหนีไปกรุงเทพฯ จากนั้นก็แยกย้ายกัน แฟนสาวขี่รถจักรยานยนต์ไปอำเภอสากเหล็ก ส่วนตนก็ว่าจ้างรถตุ๊ก ๆ เหมาไปส่งที่อ.วังทอง และขึ้นรถโดยสารไปที่อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร โดยเปิดโรงแรมค้างคืน 1 คืน จากนั้นก็แยกย้ายกัน ได้ขึ้นรถโดยสารเข้ากรุงเทพฯ 
นายอธิเทพ รับต่อว่า เมื่อได้ทองมา ก็ไม่คิดว่าจะขายที่ร้านทอง แต่ตนก็ไปเข้าบ่อนกิ่งเพชร ย่านเพชรบุรีซอย 5 นำทอง 11 เส้น ไปแลกเงินและนำมาเล่นการพนันในบ่อน ตั้งใจว่าจะนำเงินไปไถ่รถที่ยืมน้ามาจำนวนนำบ่อน แต่ก็เล่นการพนันจนหมด กระทั่งทราบว่าแฟนสาวถูกตำรวจจับกุม และตำรวจไปกดดันตามบ้านญาติอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสำนึกผิด และไม่อยากให้แฟนสาวโดนคดีด้วย จึงตัดสินใจให้ญาติติดต่อพาเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
หลังแถลงข่าว จนท.ตำรวจได้ควบคุมตัวนายอธิเทพ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามจุดต่าง ๆ โดยเริ่มจากทำแผนที่ร้านทองเยาวราชกรุงเทพฯในห้างบิ๊กซีพิษณุโลก เส้นทางหลบหนี รวมถึงปืนปลอมที่ก่อเหตุ ที่นายอธิเทพ อ้างว่า ได้โยนทิ้งไประหว่างเดินบนถนนวิสุทธิกษัตริย์แถบชุมชนชาญเวชกิจ