เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 10 พ.ค. ที่หน้าสำนักงานตำรวจภูธรพิษณุโลก พ.ต.อ.วีระสมพร อยู่ศรีสกุล รองผบก.ภ.จ.พิษณุโลก พร้อมด้วย พ.ต.อ.จิรวัฒน์ ทิพยจันทร์ รองผบก. พ.ต.อ.นฤชา สุวรณณลาภา รองผบก. ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาในคดีร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์ภายในร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาพิษณุโลก ซึ่งผู้ต้องหาทราบชื่อต่อมคือนางธัญจิรา หรือหน่อย รุ่งเรือง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 224 หมู่ 1 ต.สากเหล็ก อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ ทะเบียน ขงร-959 พิจิตร ซึ่งใช้ในการหลบหนี รถจักรยายนต์ยี่ห้อ ฮฮนด้า รุ่นโซนิค ทะเบียน กพพ-188 พิตร สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 3 เส้น โทรศัพท์มือถือจำนวน 3 เครื่อง เสื้อแขนยาวสีครีม หมวกกันน็อกสีเทา จำนวน 1 ใบ ที่คนร้ายถอดทิ้งไว้ก่อนที่จะหลบหนี ส่วนคนร้ายก่อเหตุแลอยู่ระหว่างการหลบหนีทราบชื่อคือนายอธิเทพ หรือฟาง หรือโอ๋ มีสง่า อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ 2 ต.เพชรชมพู อ.โกสัมภีนคร จ.กำแพงเพชร
ทั้งนี้สืบเนื่องจากหลังจากที่คนร้ายขับรถจักรยายนต์ยี่ห้อ ฮฮนด้า รุ่นโซนิค ทะเบียน กพพ-188 พิตร ที่ขับหลบหนีออกมาจากห้างบิ๊กซี และนำรถมาจอดไว้ที่ธนาคารไทยพานิชย์สาขาห้าแยกโคกมะตูม พร้อมถอดเสื้อคลุมและหมวกกันน็อควางทิ้งไว้ ซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร จากการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่จอดทิ้งไว้ทราบว่าผู้ครอบครองคือ พระกวัก ปัณราช บวชจำพรรษาอยู่ที่ จ.พิจิตร ชุดสืบสวนได้เดินทางไปตรวจสอบจึงทราบว่าเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา น.ส.หน่อย ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม มีศักดิ์เป็นญาติห่างได้มาขอยืมใช้รถไปใช้ จนกระทั่ง น.ส.หน่อยย่อนกลับมาหาพระกวักที่วัดจึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในที่สุดพร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 3 เส้น
น.ส.หน่อย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ผู้ต้อองหาที่หลบหนีอีกหนึ่งคนคือนายอธิเทพ สามี ของตนเอง ได้ประกอบอาชีพรับจ้างเดินสายเคเบิ้ลอยู่ที่ จ.กำแพงเพชร ก่อนเกิดเหตุสามีได้มาปรึกษาและร่วมวางแผนที่จะชิงทรัพย์ที่ร้านทองใน จ.พิษณุโลก โดยให้ตนเองไปยืมรถจักรยานยนต์จากญาติมาใช้ลงมือก่อเหตุ ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์มาจากกำแพงเพชรด้วยกันจำนวน 2 คัน เมื่อมาถึงบิ๊กซี สามีได้เดินแยกตัวหายไป ตนเองได้พยายามเดินตามหาและมาทราบว่าสามีได้ลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์และหลบหนีออกจากห้างบิ๊กซีไปแล้วตนเองได้ขับรถจักรยานยนต์ติดตามและได้รับโทรศัพท์จากสามีให้มารับที่ข้างธนาคารไทยพานิชย์ สาขาห้าแยกโคกมะตูม ตนจึงได้ขับรถมารับและพาสามีไปส่งบริเวณแยกไฟแดงหน้าวิทยาลันเทคนิคพิษณุโลก ก่อนที่สามีจะเรียกแท็กซี่หลบหนีโดยนัดแนะไปเจอกันที่ห้องพักห้องเช่าที่ อ.สากเหล็ก จงพิจิตร ส่วนตนเองได้ขับรถจักรยานยนต์ตามมา
น.ส.หน่อย เมียผู้ต้องหา ให้การต่อว่า หลังจากถึงห้องพักสามีได้แบ่งสร้อยคอทองคำให้จำนวน 3 เส้น และให้ตนเองไปบอกกับพระกวักว่าเพื่อนที่ยืมรถจักรยานยนต์ไปนำไปก่อเหตุชิงทองที่ จ.พิษณุโลก ส่วนสามีหลังจากแบ่งทองให้ก็หลบหนีและตนเองไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ส่วนตนเองนั้นได้ย้อนกลับไปกาพระกวัก เจ้าของรถจักรยานยนต์ที่วัด แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดักซุ้มจับกุมได้ในที่สุด
ด้าน พ.ต.อ.วีระสมพร อยู่ศรีสกุล รอง ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก กล่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามประกบนายอธิเทพ มีสง่า ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุลงมือจี้ชิงทรัพย์ทองคำในร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาพิษณุโลก จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่านายอธิเทพ ได้หลบไปทางภาคกลางแล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังออกหมายจับอยู่ คาดว่าจะสามารถติดตามตัวมาดำเนินคดีได้โดยเร็ววัน อย่างไรก็ตาม น.ส.ธัญจิรา หรือหน่อย รุ่งเรือง ที่จับได้ในครั้งนี้จะดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ และรับของโจร ต่อไป
/////