เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 8 พ.ค.56 เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศูนย์วิทยุ 191 ได้รับแจ้งเกิดเหตุตำรวจยิงตัวตายที่แฟลตตำรวจ ม. บ้านดงข่อย ต.วังทอง จึงรายให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธรธวัช แจ่มอุดมโชค ผกก. สภ.วังทอง พ.ต.ท.วิสุทธ์ คล้ายแสง พงส.ผนพ.(หน.)พ.ต.ท.สิวิเชียร มั่นคง พงส.ผนพ.สภ.วังทอง พ.ต.อ.บุญญสิทธิ์ โล่ห์สุวรรณ ผกก.เมืองพิษณุโลก พ.ต.ท.เข็มชาติ ประจง รอง ผกก.ป.เมืองพิษณุโลก พร้อมด้วย พ.ต.ต.หญิง สุนันทา สุมโมงค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสถานที่เกิดเหตุ กองพิสูจน์หลักพิสูจน์หลักฐาน 6 นายแพทย์จักริน สมบูรณ์จันทร์ แพทย์เวรโรงพยาบาลวังทอง
บริเวณเกิดเหตุเป็นแฟลตตำรวจ มีด้วยจำนวน 4 หลัง โดยจุดเกิดเหตุอยู่ที่ชั้นล่างแฟลตหลังที่ 3 ห้อง 106 ภายในพบศพ ด.ต.ชนทัต กาทอง อายุ 47 ปี สังกัด สภ.เมืองพิษณุโลก ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานปราบกันปราบปราม ปฏิบัติหน้าสายตรวจ อยู่บ้านเลขที่ 29/119 ถนนจ่านกร้อง ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก สภาพนอนหงายอยู่บนเตียงไม้นุ่งกางเกงวอมส์สีน้ำเงินแถบเหลือง สวมเสื้อยืดคอปรกสีขาวแถบน้ำเงิน โดยมีปืนลูกโม่ขนาด .357 บรรจุกระสุน จำนวน 6 นัด ยิงไปแล้ว 1 นัด วางอยู่บนหน้าท้อง โดยมือข้างขวาวางอยู่กับด้ามปืน ส่วนข้างตัวผู้ตายยังมีปืนขนาด 9 มม. วางอยู่อีก 1 กระบอก บรรจุกระสุน จำนวน 13 นัด สภาพมีรอยกระสุนปืนเข้าที่ขมับกกหูด้านขวา ในห้องที่เกิดเหตุพบขวดเหล้าเหลือเล็กน้อยและขวดโซดาที่เปิดดื่มไปแล้ว นอกจากนั้นยังพบจดหมายเขียนทิ้งเอาไว้ว่าผมเหนื่อยผมอยากพักผ่อน และระบุหมายเลขโทรศัพท์เอาไว้ ตรวจสอบเป็นเบอร์ของน้องชาย
จากการสอบสวนนางกชิศา ไกรวิจิตร ให้การว่า ตนพักอยู่แฟลตตำรวจเช่นกันแต่คนละหลัง และเป็นคนรับจ้างซักผ้าให้กับผู้ตายเป็นประจำเดือนละ 2 ครั้ง โดยผู้ตายจะเป้นคนนำผ้ามาส่ง เนื่องจากผู้ตายเป็นโสดอยู่คนเดียว ปกติจะเห็นออกมานั่งเล่นที่ด้านหน้าและมานั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนเป็นประจำเกือบทุกวัน กระทั่งช่วงเช้าเห็นว่าไม่ออกมาจากห้อง ตนพร้อมกับเพื่อนที่อาศัยอยู่ในแฟลต ได้พากันมาดูพบว่าประตูปิดแต่ไม่ได้ล็อก จึงเปิดเข้าไปดูพบนอนเสียชีวิตแล้ว
จากการสอบถามนายโอภาส ผาสบาย อายุ 36 ปี และนายเทียนชัย สุดสม เพื่อนของผู้เสียชีวิตให้การว่า พบกับดต.ชนทัตครั้งสุดท้ายเมื่อคืนวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา ดต.ชนทัต มานั่งดื่มเหล้าด้วยกัน ที่บ้านนายโอภาส ที่อยู่ใกล้แฟลตตำรวจดังกล่าว กระทั่งเวลาประมาณ 01.00 น. นายโอภาส และนายเทียนชัย ขอตัวผักผ่อน ขณะที่ดต.ชนทัต ได้ชวนเพื่อนมาดื่มต่อที่ห้องของดต.ชนทัต แต่ไม่มีใครไป ต่างแยกย้ายกลับบ้านนอน
นายเทียนชัย สุดสม อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 ม.4 ต.สมอแข อ.เมืองพิษณุโลก กล่าวว่า ตนเองเป็นเพื่อนสนิทกับ ด.ต.ชนทัต มาร่วม 10 ปี จนทราบปัญหาที่เกิดขึ้นตลอดเวลา และเกือบทุกวันจะนั่งดื่มเหล้าเป็นประจำ ซึ่งทาง ด.ต.ชนทัตจะเอ่ยถึงผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งผู้ตายเป็นคนส่งเสียให้เรียนจนใกล้จะจบปริญญาตรี แต่ภายหลังผู้หญิงคนดังกล่าวกลับไปคบกับชายอื่น จนผู้ตายทราบเรื่องและมีปัญหากัน เตรียมจะยิงผู้หญิงคนนั้นให้ตายและจะฆ่าตัวตายตาม โดยเขียนจดหมายลาพ่อเอาไว้แล้ว แต่มีเพื่อนทราบเรื่องได้เตือนสติเอาไว้ก่อน
พ.ต.อ.บุญญสิทธิ์ โล่ห์สุวรรณ ผกก.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นคนเรียบร้อยและยังเป็นนักกีฬาอีกด้วย ตอนนี้ได้แจ้งให้ทางพ่อแม่และญาติทราบแล้ว สาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด แต่สอบถามน้องชายผู้ตาย ทราบว่าเกี่ยวกับแฟนที่เคยคบกัน แต่เกี่ยวกับหน้าที่การงานนั้นไม่มีปัญหา
เบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า ผู้ตายเป็นหนุ่มโสดเป็นตำรวจสายตรวจประจำ สภ.เมืองพิษณุโลก แต่มาพักที่แฟลตเกิดเหตุ เป็นคนชอบเล่นกีฬา โดยเฉพาะฟุตบอล โดยเฉพาะในห้องพักจะมีนำรูปนักกีฬาฟุตบอลและอุปกรณ์และเครื่องหมายเกี่ยวกับฟุตบอลมาติดเต็มทั่วห้อง จากการที่ยังเป็นหนุ่มโสด ทำให้มีเพื่อนฝูงมานั่งดื่มเหล้ากันเป็นประจำ ทราบว่าผู้ตายยังได้ส่งเสียหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเรียนจบที่วิทยาลัยการอาชีพพิษณุโลก กำลังเรียนต่อระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่พิษณุโลก ซึ่งผู้ตายเสียเงินเสียทองให้การดูแลมาตลอด ปรากฏว่าช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา ผู้ตายจับได้ว่าหญิงสาวที่ตนส่งเสียกลับไปมีชายอื่น ทำให้เกิดปัญหากันทะเลาะวิวาทกัน โดยผู้ตายเตรียมวางแผนจะไปปืนยิงหญิงคนดังกล่าว โดยเขียนจดหมายลาพ่อของตัวเองเอาไว้ หากยิงผู้หญิงคนนั้นแล้วจะฆ่าตัวตายตาม แต่เป็นจังหวะที่เพื่อนที่มาดื่มเหล้าเห็นจดหมายและทราบเรื่องทุกอย่าง จึงได้ช่วยกันห้ามปราม ทำให้ผู้ตายเลิกล้มความคิดไป กระทั่งมีคนมาพบศพใช้อาวุธปืนยิงตัวเองดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์พบชื่อผู้หญิงคนนั้น จึงได้ติดต่อกลับไป พบว่ายังมีชีวิตอยู่ จึงแจ้งมาให้พบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อทำการสอบปากคำตามขั้นตอนต่อไป