ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีการค้นพบเจดีย์โบราณ คาดว่าอายุหลายร้อยปี ที่บริเวณป่าทึบ หลังวัดกระบังมังคลาราม ตำบลหอกลอง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก จึงได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบ พบเจดีย์ดังกล่าว อยู่กลางป่า เป็นเจดีย์ รูปทรงคล้ายกับ เจดีย์สมัยสุโขทัย โดยชาวบ้านกำลังเตรียมที่จะทำการซ่อมแซม บูรณะ 
นายสุภาพ สุขคง อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 2 ต.หอกลอง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่เล่าว่า เจดีย์ดังกล่าว คนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้าน เชื่อกันว่า มีอายุไม่ต่ำกว่า 300 ปี ก่อนหน้านี้ บริเวณที่ค้นพบเจดีย์ เป็นป่าทึบ ประกอบกับตั้งอยู่หลัง เมรุเผาศพ และ ศาลาธรรมสังเวช เลยไม่ค่อยมีใครเข้าไปดูแล แต่ก็มีพวกมิจฉาชีพ ที่ไม่กลัวบาป เข้ามาขุดค้น เพื่อหาวัตถุมงคล หรือ สิ่งของมีค่า จากภายในเจดีย์ออกไป ซึ่งไม่มีใครทราบว่า มีอะไรอยู่ภายในนั้นบ้าง
ต่อมา เจ้าอาวาส และ คณะกรรมการวัด เล็งเห็นว่า เจดีย์โบราณ ที่อยู่ในวัด มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เป็นโบราณวัตถุ ที่อยู่คู่กับวัดมาช้านาน ซึ่งบางคนกล่าวว่า เจดีย์นี้ มีมาก่อน ที่จะมีการก่อสร้างวัด แห่งนี้ จึงได้เตรียมที่จะทำการบูรณะ ซ่อมแซม ให้เจดีย์มีความมั่นคง แข็งแรง ประชาชนสามารถเดินเข้ามากราบไหว้ บูชาได้
ด้าน นายครรชิต นางบวช ส.อบต. หอกลอง ได้เล่าว่า ทางวัด และคณะกรรมการ มีความประสงค์ที่จะบูรณะเจดีย์โบราณ ภายในวัด จึงได้มีการทำพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อขออนุญาต ซึ่งในพิธี ได้เชิญพราหมณ์ มาเป็นผู้ทำพิธี และเข้าทรง ขณะเข้าทรง พราหมณ์ได้กล่าวว่า เจดีย์แห่งนี้ สร้างขึ้นในสมัยพระมหาธรรมราชา บนยอดเจดีย์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งหลังจากทำพิธีเสร็จ ชาวบ้านที่มาร่วมงาน ต่างก็เข้าไปกราบไหว้ และได้เลขเด็ด ถูกหวยเมื่องวดวันที่ 2 พฤษภาคม ที่ผ่านมากันเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม เจดีย์ดังกล่าว แม้ชาวบ้านจะเชื่อว่า มีอายุไม่ต่ำกว่า 300 ปี แต่ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาตรวจสอบยืนยัน อีกทั้งไม่ปรากฏว่า สร้างขึ้นในสมัยใด และใครเป็นผู้สร้าง ทั้งนี้ ชาวบ้านและผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ประสงค์ ที่จะให้ทางกรมศิลป์เข้ามาดูแล เนื่องจากเกรงว่า เจดีย์ และสิ่งของที่บรรจุอยู่ภายใน จะต้องตกเป็นของกรมศิลปากรทั้งหมด
ด้านการบูรณะซ่อมแซม ทางวัดกระบังมังคลาราม และคณะกรรมการ ได้ตกลงว่าจ้าง ช่างในหมู่บ้านมาทำการซ่อมแซม ด้วยการ ทำฐานราก และ หุ้มเจดีย์ใหม่ โดยให้ทำตามแบบเค้าโครงเดิมทั้งหมด ใช้งบประมาณในการบูรณะซ่อมแซมทั้งสิ้น 9 แสนบาท