ช่วงบ่ายวันที่ 1 พ.ค.2556 ที่เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกได้เข้าตรวจเยี่ยมการทำงานของเจ้าหน้าที่เรือนจำหลังจากเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2556 ที่ผ่านมาได้มีการสนธิกำลังของเจ้าหน้าที่เรือนจำและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้า จู่โจมตรวจค้นเรือนจำ โรงนอนชาย ที่แดน 5 ซึ่งในครั้งนั้น เจ้าหน้าที่พบของกลาง เป็นยาไอซ์ และโทรศัพท์มือถือ พร้อมด้วยอุปกรณ์ต้องห้ามอีกหลายรายการ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้สอบถามถึงมาตรการการป้องกันของผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งล่าสุดเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก มีมาตรการเข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะกับผู้ต้องขังแดน 5 โดยยังเปิดโอกาสให้ญาติได้เยี่ยมผู้ต้องขังผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เร้นแทนการพบประแบบใกล้ชิด ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องให้ผู้ต้องขังเดินมายังจุดเยี่ยมญาติบริเวณด้านหน้าเรือนจำฯ ซึ่งมีระยะห่างประมาณ 800 เมตร โดยเริ่มมาตรการพบปะญาติผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเร้นท์ มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2556 ที่ผ่านมา และจากการสอบถามญาติและผู้ต้องขังก็พอใจในระดับหนึ่ง สำหรับมาตรการเชิงรุก เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ยังสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรวังทอง ตลอดจนเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตำรวจตระเวนชายแดนที่ 31 จู่โจมตรวจค้นเรือนจำ และเรือนนอนนักโทษชาย อย่างต่อเนื่อง เพื่อค้นหายาเสพติด ตลอดจนสิ่งของต้องห้าม โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ จากการตรวจสอบ ยังพบว่าผู้ต้องขังมีการนำสิ่งผิดกฎหมายไปฝังดิน ในบริเวณเรือนนอน แต่ก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาเจ้าหน้าที่ได้ อย่างไรก็ตาม ทางเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก จะยังคงจู่โจมตรวจค้นเป็นระยะ เพราะพื้นที่ภายในเรือนจำมีมากถึง 45 ไร่ และมีจำนวนนักโทษชาย 2,832 คน สำหรับนักโทษชายที่นำรูปถ่ายโพสขึ้นเฟซบุ๊ค ออกเผยแพร่สู่สังคมออนไลน์ นั้น ทางเรือนจำได้แยกขังเดี่ยว เป็นเวลานาน 3 เดือน พร้อมตัดสิทธิ์การเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้เข้าไปตรวจเยี่ยมผู้ต้องขังภายในเรือนจำ พร้อมดูสภาพความเป็นอยู่ของผู้ต้องขัง ขณะเดียวกันก็ได้ให้กำลังใจผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ตลอดจนเจ้าหน้าและบุคลากรผู้ปฏิบัติหน้าที่ภายในเรือนจำให้มีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ต่อไป